green and brown plant on water

ธรรมะพิเศษวันมาฆบูชา

เวลาอ่าน : 3 นาที

เสียงธรรมจากห้อง  “เมตตาภิรมย์กรรมฐาน”

วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2566

เรื่อง ธรรมะพิเศษวันมาฆบูชา

โดย อาจารย์ คณานันท์ ทวีโภค

 

วันนี้ก็เป็นโอกาสพิเศษ  ในการเจริญพระกรรมฐาน เนื่องในวันมาฆบูชา ก็ให้เราเริ่มต้นด้วยการกำหนดจิต เป็นสมาธิ อยู่กับลมหายใจที่ละเอียดสงบ อยู่กับจิตที่ผ่องใส  วันนี้กำหนดจิต  รำลึกนึกถึงภาพ นึกถึงพระพุทธองค์ กำหนดใจของเรา ว่าทุกครั้งที่ปรากฏภาพพระพุทธองค์ขึ้นมาในจิต    จิตของเราถึงพระพุทธเจ้าบนพระนิพพานเสมอ จิตถึง กระแสถึง กำลังแห่งพุทธานุภาพไม่มีที่สุด  ไม่มีประมาณ รักษาจิตสงบ อยู่กับพระพุทธองค์ ภาพองค์พระสว่างกระจ่างในจิตของเรา  วันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง   สว่างผ่องใสฉันใด    จิตเราสว่าง   สงบเย็นฉันนั้น     จดจ่ออยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ที่ปรากฏในจิต  สว่างเป็นเพชรชัดเจน   ตั้งใจว่าเราปฏิบัติเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา  สังฆบูชา

ในขณะที่จิตเรากำหนดจดจ่ออยู่กับ ภาพพระรูปพระโฉมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จิตก็กำหนดรู้ ว่าจิตของเราในขณะนี้  สว่างผ่องใสเป็นประกายพรึก  ทำความเข้าใจก่อน ว่าในวันพระใหญ่ ประเพณีที่เราจุดเทียน เวียนเทียนก็ดี จุดผางประทีปบูชาคุณพระรัตนตรัยก็ดี ปรากฏแสงสว่าง แต่การบูชาทั้งหลายดังที่กล่าวนั้น จะประเสริฐยอดเยี่ยมที่สุด ก็ต่อเมื่อเราจุดจิตของเรา  ให้เกิดปรากฏความสว่างผ่องใส เกิดแสงสว่าง เกิดรัศมีแห่งจิตอันผ่องใสบริสุทธิ์  จิตที่สะอาดจากกิเลส  คือความโลภ โกรธ หลง จิตที่ตัดละจากภพภูมิต่างๆ ให้จิตที่สว่างนั้น เป็นประดุจผางประทีป  โคมไฟ  แสงเทียน ที่เราจุดเป็นพุทธบูชา เราเจริญพระกรรมฐาน  เรากำหนดจิต  ให้สว่างผ่องใสบริสุทธิ์   เป็นพุทธบูชา ที่เรียกว่าปฏิบัติบูชา ถือว่าเป็นการบูชาที่ประเสริฐที่สุด  กำหนดจิต  เห็นดวงจิตในกายของเรา เป็นเพชรประกายพรึก สว่างเจิดจ้า ใจเรายิ้ม  เอิบอิ่มผ่องใส  ตั้งใจว่าเป็นพุทธบูชา ทรงอารมณ์ไว้ ประคองรักษาอารมณ์ที่ผ่องใสอารมณ์ที่เป็นสุขไว้

จากนั้นกำหนดจิต รำลึกนึกถึงพระพุทธองค์   อธิษฐานจิต    ขออาราธนาบารมีพระพุทธองค์ทรงสงเคราะห์   ขอยกอาทิสมานกายของข้าพเจ้า   ขอจงปรากฏสภาวะในความเป็นกายพระวิสุทธิเทพ   ยกอาทิสมานกายของข้าพเจ้าขึ้นไปบนสวรรค์  ชั้นดาวดึงส์เทวโลก ไปที่วิมานของท่านปู่ท่านย่าพระอินทร์  ขึ้นไปนะ กำหนดจิต กำหนดจิต ขึ้นไปกราบ ท่านปู่ท่านย่า เมื่อไปถึงแล้วก็กราบ  น้อมจิตกราบแทบเบื้องพระบาทของท่านปู่ท่านย่าท่าน

จากนั้นตั้งจิตอธิษฐาน ขออนุญาตไปที่พระจุฬามณีเจดีย์สถาน  ไปดูซิว่าเทวดาพรหมทั้งหลาย ท่านมาเวียนเทียนกัน รอบพระจุฬามณี กำหนดจิตอธิษฐานให้กายทิพย์เรา  ไปเวียนเทียนที่พระจุฬามณี   การเวียนเทียน  ก็ไปกราบสักการะ ภายในพระจุฬามณี ซึ่งประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วและพระเมาลีของพระพุทธเจ้า กำหนดจิตน้อมกราบ  จากนั้นก็กำหนดจิตนะ ว่าเราเวียนเทียนรอบพระจุฬามณี  อธิษฐานให้กายทิพย์ของเราเหาะ ลอย  วนรอบ  เวียนขวา  รอบพระจุฬามณี ในขณะที่ลอยเวียนรอบ ก็กำหนดจิต เป็นแสงสว่าง  ตั้งจิตอธิษฐานบริกรรม

นิพพานัง  ปรมัง  สุขัง

ทรงอารมณ์สูงสุด เวียนจนครบ 3 รอบช้าๆ  สว่าง ในขณะเดียวกันก็กำหนดรู้  ว่ามีเทวดา  ท่านมาเวียนเทียนเยอะไหม  มาปฏิบัติธรรมเยอะไหม กำหนดจิตนะ เหาะ เวียนเทียนรอบพระจุฬามณี

 

จากนั้น  เมื่ออธิษฐานจิตเวียนเทียนเรียบร้อยแล้ว  ก็กำหนดจิต ขออนุญาต ท่านปู่ท่านย่า   ขอพุทธานุญาตพระพุทธองค์ ไปที่ธรรมสภา เทวสภาบนสวรรค์ เข้าไปดูนะ มีสภาวะเช่นไร เทวดาท่านมาฟังธรรมเยอะไหม สถานที่เป็นวิหารกว้าง  มีลักษณะเช่นไร  กำหนดจิต เราก็น้อมจิตกราบองค์ผู้แสดงธรรม เทวดาที่ท่านเป็นสัมมาทิฐิ เทวดาที่ท่านเป็นพระอริยเจ้า เทวดาที่ท่านไม่ประมาท ท่านก็ไม่หลงในความเพลิดเพลิน ในความสุขของทิพยสมบัติบนสวรรค์ ถึงเวลาท่านก็มาปฏิบัติธรรม  ท่านก็ขวนขวายที่จะโมทนาสาธุ  กับบุญกุศลของมนุษย์ ที่สร้าง ที่บำเพ็ญไว้ดีแล้ว

เมื่อกำหนดจิตเข้ามาดู  เข้ามากราบเรียบร้อย   ก็กำหนดจิตเดินทางต่อไป  อธิษฐานจิต     ขอบารมีพระพุทธเจ้าทรงสงเคราะห์   ขอให้อาทิสมานกายข้าพเจ้า    ไปปรากฏที่   สวรรค์ชั้นดุสิต  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง    เขตที่พระโพธิสัตว์     พระมหาโพธิสัตว์ท่านอยู่กัน  ในอาณาเขตแดนที่เรียกว่าพุทธเกษตร  กำหนดจิตขอไปกราบ ท่านที่เป็น พระมหาโพธิสัตว์ ที่สถิตย์เป็นใหญ่อยู่ ณ พุทธเกษตร  กราบพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย กราบหลวงปู่ปาน กราบพระโพธิสัตว์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 กำหนดจิตไปกราบทุกท่านทุกพระองค์  ขอบารมีพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย  ท่านเมตตาสงเคราะห์  ขอให้ข้าพเจ้าได้เห็นสภาวะวิมาน    ความเป็นไปของพระโพธิสัตว์  ที่เสด็จประทับเสวยบุญอยู่   ที่สวรรค์ชั้นดุสิต ในเขตพุทธเกษตร  ที่ระดับพระโพธิสัตว์ท่านถึงมาปรากฏมีวิมานอยู่ที่นี่ กำหนดจิต ขออนุญาตไปกราบ  พระศรีอารยเมตไตรยนะ กายทิพย์เรา   ก็น้อมจิตกราบทุกท่านทุกพระองค์  กราบโมทนาสาธุ   กับทุกท่านทุกพระองค์ พระโพธิสัตว์หลวงปู่ดู่ พระโพธิสัตว์หลวงปู่ทวด พระโพธิสัตว์อีกมากมายที่ปรากฏ

กำหนดจิตอธิษฐาน  ว่าเรามีโอกาสได้พบเจอพระโพธิสัตว์ในชีวิต ทั้งในชาติปัจจุบันและอดีตชาติ ทั้งในเขต พระพุทธศาสนาเถรวาท  และพระพุทธศาสนามหายานในประเทศต่างๆ  ในอดีตชาติ ขอให้ปรากฏภาพ พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ปรากฏรายรอบ ห้อมล้อม ในอดีตที่ไกลแสนไกล เราก็เคยพบเจอพระโพธิสัตว์มาแล้วหลายพระองค์ กำหนดจิตน้อมกราบทุกท่านทุกพระองค์ น้อมขอพรจากพระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย ขอให้ข้าพเจ้า มีจิตอันเปี่ยมไปด้วยเมตตาพรหมวิหาร 4  ขอให้เมตตา ความเป็นสัมมาทิฐิ ได้เจริญงามในจิตข้าพเจ้า  ข้าพเจ้าขอน้อม เจริญมหามุทิตาจิตกับทุกบารมี  ที่ทุกท่านทุกพระองค์ได้บำเพ็ญไว้ดีแล้ว ขอพระโพธิสัตว์เจ้าทุกพระองค์  เมตตาสงเคราะห์เกื้อกูล ข้าพเจ้าเต็มกำลังด้วยเทอญ ให้ในขณะที่ข้าพเจ้ามีชีวิตบนโลกมนุษย์ สมบูรณ์พร้อมด้วยมนุษย์สมบัติ อายุ วรรณะ สุขะ พละ      มีสุขภาพที่สมบูรณ์พร้อมแข็งแกร่ง  มีทรัพย์  มีอริยทรัพย์  มีปัญญา  มีความเพียร  มีบารมีทั้ง 30 ทัศ   เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ในจิต น้อมจิตกราบทุกท่านทุกพระองค์นะ

จากนั้น ตั้งจิตอธิษฐานต่อไป ขอบารมีพระพุทธองค์ทรงสงเคราะห์  ขอยกจิตข้าพเจ้า ไปที่พรหมโลก ขึ้นไปกราบ ท่านท้าวสหัมบดีพรหม  ที่พรหมโลกด้วยเทอญ กำหนดจิตขึ้นไปกราบท่านนะ  น้อมจิตอธิษฐาน ขอรัศมี แสงสว่างแห่งพรหม ของท่านท้าวสหัมบดีพรหม  จงปรากฏ ให้ข้าพเจ้าได้เห็น สัมผัส เข้าถึง และน้อมจิต อนุโมทนา ใจเราเอิบอิ่ม กำหนดจิตว่าเราฝึกเมตตาอัปมานฌาน  กับท่านท้าวสหัมบดีพรหม  แผ่เมตตาสว่างรุ่งโรจน์ไปในภพภูมิต่างๆ มีความสงบเย็นเพียงใด ก็ขอให้เราเข้าถึง ความสว่างผ่องใส สงบเย็น ได้ดุจดั่งท่านด้วยเทอญ ขอสัมผัสเข้าถึง หัวใจเบิกบานสว่าง เข้าถึงสภาวะธรรม   เข้าถึงสภาวะแห่งเมตตาอันไม่มีประมาณ  เข้าถึงความสงบเย็น  เข้าถึง พร้อมกับแผ่เมตตาอันไม่มีประมาณ เมตตาอัปมานฌานไปทั้ง 3 ภพภูมิด้วยนะ

จากนั้น    กำหนดจิตต่อไป    กราบลาท่านท้าวสหัมบดีพรหม    พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐาน     รำลึกนึกถึง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  กำหนดจิตขออาราธนาบารมี   ขอท่านเมตตายกจิตของข้าพเจ้า   ขึ้นไปบนพระนิพพานด้วยเทอญ กำหนดจิตขึ้นไปบนวิมานของพระพุทธเจ้า องค์พระสมณะโคดม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ตั้งจิตอธิษฐานน้อมจิตกราบ วางอารมณ์จิตด้วยความนอบน้อมผ่องใส

จากนั้นอธิษฐานจิตต่อไป ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้เจริญในธรรม ขอธรรมะของพระพุทธเจ้า องค์พระสมณะโคดม ได้งอกงามในจิต   ขอให้ข้าพเจ้าเข้าถึง   ความรู้แจ้งแห่งพระนิพพานได้โดยง่าย    ธรรมทั้งหลายมุ่งลัดตัดตรงสู่มรรคผลพระนิพพาน ธรรมทั้งหลายจงประจักษ์แจ้งแก่ใจ ญาณแห่งปฏิสัมภิทาญาณจงปรากฏ

จากนั้น  น้อมรับกระแสจากพระพุทธองค์    กำหนดจิต     น้อมรับกระแส   พระพุทธเมตตาจากพระพุทธองค์ อาทิสมานกาย สว่าง อารมณ์จิตสงบเย็นสว่าง เอิบอิ่มชุ่มเย็นภายในจิต  กำหนดจิตนะ  น้อมจิตกราบทูลถามท่าน  ว่าทุกครั้งแห่งการปฏิบัติ  ทุกครั้งแห่งการปฏิบัติบูชา พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ท่านรับรู้ รับทราบการปฏิบัติของข้าพเจ้าการปฏิบัติของหม่อมฉันหรือไม่พระพุทธเจ้าค่ะ ทุกท่าน ท่านรับรู้นะ ให้เราน้อมเอาความรู้สึกนี้ มายังให้เกิดความปิติเกิดกำลังใจในการปฏิบัติ ทุกการปฏิบัติของเรามีผล ทุกการปฏิบัติของเรา  พระพุทธเจ้าทุกพระองค์   สิ่งศักดิ์สิทธิ์    เทพพรหมเทวาทั้งหลาย ท่านรับรู้  รับทราบและโมทนา ให้กำลังใจเราแช่มชื่นมีกำลังขึ้น

จากนั้นกำหนดจิตอธิษฐานต่อไป ขอบารมีพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเมตตาสงเคราะห์  ขอให้ข้าพเจ้าจงปรากฏอตีตังสญาณ ขอไปเห็นภาพเหตุการณ์ ในสมัยพุทธกาล อันเป็นปฐมบทแห่งวันมาฆบูชา ขอให้เห็นภาพเหตุการณ์ และอาทิสมานกายเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้น  ด้วยเถิดพระพุทธเจ้าค่ะ กำหนดจิตนะ ค่อยๆ ดูตาม เข้าไปกราบพระพุทธเจ้า  ในสมัยอดีตนั้น   ในเวลานั้น   เมื่อครั้งพระพุทธองค์ทรงมีพระชนม์ชีพ   ให้อาทิสมานกาย  กายพระวิสุทธิเทพเราไปกราบแทบเบื้องพระบาท     สัมผัสได้ถึงพระวรกายของพระพุทธองค์   กำหนดน้อมจิตให้เห็นพระรูปพระโฉม ของพระพุทธองค์เมื่อครั้งที่ท่านยังทรง มีขันธ์ 5 มีพระวรกายอยู่ด้วยเถิด ขอให้เห็นฉัพพรรณรังสี   ผิวกายอันดุจประดังทองเรียบเนียนสว่าง   ราศรีที่สว่างเรือง  ปรากฏ  ประจักษ์ชัดเจนอยู่ ผ้าจีวรที่ปรากฏ    กำหนดจิตอธิษฐาน จิตจับพระรูปพระโฉมพระพุทธองค์  เมื่อครั้งทรงมีพระชนม์ชีพอยู่  ชัดเจนกระจ่างในจิตของเรา   จิตยิ่งก่อเกิดความเลื่อมใสศรัทธา  จิตยิ่งก่อเกิดความนอบน้อม  ความเคารพรักในพระพุทธองค์

จากนั้น ให้เรากำหนดน้อมจิต เข้าไปรู้  น้อมจิตกราบทูลถาม ให้เห็นภาพเหตุการณ์ วันมาฆบูชา คือวันที่พระอรหันต์ ปฏิสัมภิทาญาณ ได้เดินทางมาพบพระพุทธเจ้า 2,250 รูป ในวันเพ็ญเดือนมาฆะ พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ให้เรากำหนดรู้  กำหนดดูในจิต อันที่จริงที่บอกว่าไม่ได้นัดหมาย ไม่ได้นัดหมายโดยปาก  ไม่ได้นัดหมายโดยการบอกต่อ ไม่ได้นัดหมายโดยการส่งจดหมาย หรือการเชิญแต่ประการใด กำหนดรู้ว่าที่จริงแล้ว  การนัดหมายนั้น พระพุทธองค์ท่านทรงส่งญาณ ส่งออกไปถึง ทุกท่าน ทุกรูป  ส่งไปผ่านจิตเจโตฯ  ทุกท่าน ที่ได้รับกระแสพุทธฎีกาจากพระพุทธองค์ ล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันต์  เอหิภิกขุอุปสัมปทา คือบวชโดยที่พระพุทธองค์ทรงบวชให้ด้วยตนเอง และการบวชนั้น เป็นการบวชแบบที่     พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า    เธอจงมาบวชเถิด    และจีวรอันเป็นบุญเก่า  บาตรอันเป็นบุญเก่า เครื่องอัฐบริขารทั้งหลาย  อันเป็นบุญบารมีเก่า  ของพระอรหันต์ทั้งหลายแต่ละบุคคล แต่ละองค์ แต่ละวาระก็ปรากฏขึ้น เพศ สภาวะ ความเป็นพระ ก็ปรากฏขึ้น ท่านทั้งหลายที่บวชในแบบเอหิภิกขุอุปสัมปทา บวชได้เฉพาะ ในยุคสมัยที่มีพระพุทธองค์ทรงปรากฏอยู่  รวมถึงท่านทั้งหลาย ที่บวชก็บรรลุอรหัตผล และบรรลุบรรลุอรหัตผล ก็เป็นบรรลุอรหัตผล ในวิสัยแห่งปฏิสัมภิทาญาณ รวมความว่า  พระภิกษุสงฆ์   ที่เดินทางมา  กราบ  พบพระพุทธเจ้าในวันมาฆบูชาทั้ง  2,250 รูป ล้วนแล้วแต่เป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ ที่พระพุทธองค์ทรงเมตตาบวชให้โดยตรง

ตอนนี้ก็ให้เรากำหนดจิต ให้เห็นภาพว่าแต่ละองค์ แต่ละรูป ท่านเดินทางมาพบพระพุทธเจ้าในแบบใดบ้าง บางท่านก็เดินมา บางท่านก็เหาะมา    บางท่านก็ใช้อภิญญาใหญ่   หายตัวมาปรากฏ    เพื่อให้ทันเวลาที่พระพุทธองค์ทรงนัดหมาย กำหนดจิตให้เห็น การเดินทางของแต่ละรูป แต่ละท่าน หลายๆ ท่าน ที่เดินทางมาในครั้งนี้ ก็มีพระอัครสาวกเบื้องขวา เบื้องซ้าย พระอสีติมหาสาวก  คือพระภิกษุสงฆ์ที่เป็นผู้เลิศในด้านต่างๆ  กำหนดจิต กำหนดรู้ต่อไป   เหตุผลที่พระพุทธองค์ทรง มีพระพุทธบัญชา ให้พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย เดินทางมาพบ เหตุผลเพื่อสิ่งใด

ขอให้เรากำหนดรู้ขึ้นมาในจิต พระพุทธองค์ท่านให้มาพบเพื่อ

  1. งานในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ธรรมที่ท่านทรงแสดงนั้น สรุปรวมเป็นแก่นของพระพุทธศาสนา คือละอกุศลทั้งหลาย ละทั้งกาย วาจา ใจ
  2. ยังกุศลทั้งหลายให้ถึงพร้อม ทั้งกาย วาจา ใจ
  3. เพื่อให้จิตเข้าถึงความผ่องแผ้วเบิกบาน ก็คือจิตอันผ่องใส และจิตอันผ่องใสนั้น ความผ่องใสมีหลายระดับ แต่ความหมายหมั้นของพระพุทธองค์ก็คือ ความผ่องใสในสภาวะแห่งอารมณ์พระนิพพาน คือผ่องใสสูงสุด ปราศจากกิเลสทั้งปวง เป็นอารมณ์พระนิพพาน

เรากำหนดจิต เห็นภาพในขณะที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม กำหนดจิตเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด  น้อมกระแส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลายคนเป็นครูเมตตาสมาธิ     เราน้อมกระแสพุทธบัญชา    พุทธเจตนารมณ์ของพระพุทธองค์  การเผยแพร่ธรรม การจุดแสงเทียนแห่งความดี การสืบต่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ครบ 5,000 ปี ขอกระแสแห่งเหตุการณ์ที่พระพุทธองค์   ทรงเทศน์   ทรงตัดสอน   ทรงแสดงธรรม  ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์    ขอกระแสทั้งหลายจงถ่ายทอดรวมลงสู่จิตเรา

จากนั้นตั้งจิตอธิษฐาน ธรรมทั้งหลาย เป็นอะกาลิโก ไม่มีขอบเขต ไม่ถูกจำกัดด้วยกาลเวลา ขออาราธนาบารมีพระพุทธองค์ทรงสงเคราะห์ ขอให้กระแสแห่งธรรมะ ของพระพุทธองค์ที่ทรงแสดง  แม้ผ่านมานานแล้ว 2,500 ปีเศษมา ขอกระแสธรรม กระแสกุศล กระแสคลื่น กระแสพระพุทธเมตตาของพระพุทธองค์ จงปรากฏในโลก ในยุคสมัยปัจจุบันนี้ ขอกระแสธรรมโอสถ จงปรากฏขึ้น     ขอกระแสแห่งมรรคผลจงปรากฏขึ้น    ขอยุคแห่งชาววิไล   ความเจริญในธรรม  จงปรากฏขึ้น น้อมกระแส หากท่านใด มีกำลังใจสูง จิตปรากฏผุดรู้ได้ยินเสียงที่พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรม ก็น้อมจิตตาม  ตอนนี้ให้เราสงบอยู่ในเหตุการณ์  ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงโอวาทะปาติโมกข์ ในวันมาฆบูชาด้วยเทอญ จิตผ่องใส  สงบ น้อมตาม สิ่งใดผุดรู้ก็กำหนดรู้

จากนั้นให้เราน้อมจิต กราบ พระพุทธองค์ และมวลหมู่คณะสงฆ์ กำหนดน้อมจิตโมทนาสาธุ  กำหนดรู้ในจิตของเราเอง ว่าจิตเราเกิดความเอิบอิ่ม เกิดความปิติ เกิดความชื่นชมโสมนัส เข้าถึงสภาวะ เข้าถึงกระแส ใจเราเป็นสุขไหม กำหนดในความเป็นกายพระวิสุทธิเทพ  สว่าง กำหนดรู้ในจิต จิตเป็นสุขก็รู้ว่าเป็นสุข จิตผ่องใสเต็มกำลังก็รู้ว่าผ่องใสเต็มกำลัง

จากนั้น     กำหนดน้อมขอบารมีพระพุทธองค์ทรงสงเคราะห์      ขอยกอาทิสมานกายของข้าพเจ้า ขึ้นไปบนพระนิพพานด้วยเทอญ ขึ้นไปที่วิมานของตัวเราบนพระนิพพาน จากนั้นกำหนดจิต ทรงอารมณ์ ทรงความผ่องใส กำหนดตั้งใจ   ว่าเมื่อเรา    ตายจากร่างกายเนื้อนี้    เรายกจิตขึ้นมาบนพระนิพพาน     เราตัดภพภูมิทั้งหลาย   ตัดสังโยชน์ ตัดสรรพกิเลสทั้งปวง จิตทรงอารมณ์พระนิพพาน

นิพพานัง ปรมัง สุขัง พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

ทรงสภาวะในกายพระวิสุทธิเทพ ชัดเจน สว่าง กำหนดรู้ในสภาวะธรรม อารมณ์พระกรรมฐาน ความผ่องใสเต็มกำลัง มีกำลังแห่งวันมาฆบูชา มีกำลังแห่งกระแสของพระพุทธเจ้า กระแสพลังงาน ที่ยังอยู่จากเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา กายพระวิสุทธิเทพเรายิ่งสว่างผ่องใสขึ้น  กำหนดจิตตั้งใจว่า ในเวลา 10 นาทีนี้ เราจะทรงอารมณ์ผ่องใส ทรงสภาวะกายพระวิสุทธิเทพบนพระนิพพาน ทรงอารมณ์อันเป็นสุข

นิพพานนัง ปรมัง สุขัง   เป็นพุทธบูชาในวันมาฆบูชานี้   ความผ่องใส   ความบริสุทธิ์แห่งจิต     จงเป็นปัจจัยเพื่อพระนิพพาน  ในชาติปัจจุบันของข้าพเจ้าทุกคนด้วยเถิด เสวยวิมุตติสุขในอารมณ์พระนิพพาน (สงบจิต 10 นาที)

ทรงอารมณ์ความผ่องใสไว้ จากนั้นกำหนดจิต ร่วมบุญแห่งกรรมฐานที่เราเจริญไว้วันนี้ เหตุเราทำไว้ดีแล้ว กระแสบุญ กระแสกุศล เป็นพลังงาน สมาธิจิตเป็นพลังงาน ความผ่องใสเป็นพลังงาน ในวันมาฆบูชาเป็นวันพระใหญ่ เป็นวาระพิเศษ ที่ประตูแห่งอบายภูมินั้น อนุญาตให้พักการลงโทษ เรากำหนดจิต ขอบารมีของพระพุทธองค์ทรงสงเคราะห์ขออนุญาตจากลุงพุฒ ท่านพระยายมราช ตลอดจนนายนิรยบาล  ขอน้อมกระแสจากพระนิพพานลงไป ให้กับพ่อแม่ ในชาติปัจจุบันก็ดี  ในอดีตชาติก็ดี ญาติทั้งหลาย ของเราก็ดี  ที่เสวยวิบาก ต้องโทษอยู่ในทุกข์ คติภูมิอันได้แก่นรก ขอบุญกุศลของข้าพเจ้า ที่เจริญพระกรรมฐานนี้ บุญแห่งพระกรรมฐาน จงเกิดประโยชน์  เกิดผล ใช้โปรดพ่อแม่    จะชาติปัจจุบันหรืออตีดชาติก็ตาม  ญาติทั้งหลาย  ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย   ขอจงปลดเปลื้องความทุกข์นั้น   ท่านได้อยู่ในวิสัยที่โปรดให้ขึ้นมาได้ ก็ขอให้ จงเกิดผลอัศจรรย์ด้วยเถิด พระโพธิสัตว์ท่านใด พุทธภูมิท่านใดที่พลาดพลั้งร่วงหล่นไปยังอบายภูมิ วาระนี้ก็ขอให้บุญพระกรรมฐาน  บารมีแห่งพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ ที่มีกำลัง พระมหาโพธิสัตว์ทุกๆ พระองค์ โปรดสงเคราะห์  ท่านทั้งหลายให้ขึ้นมาพ้นจากอบายภูมิด้วยเถิด   เมื่อท่านทั้งหลายขึ้นมาแล้ว พ้นแล้ว    ก็ขอให้ จงดำรงไว้ในความเป็นสัมมาทิฐิ  ดำรงไว้ในความเป็นผู้ที่ไม่ประมาทในการกุศล ตั้งจิตอธิษฐาน ไม่ลืมบุญ ไม่ลืมกุศล ไม่ลืมการสร้างบารมี

จากนั้นกำหนดจิตอธิษฐานของแต่ละบุคคลเราต่อไป ขอบุญกรรมฐานวันนี้ บุญที่เรามีเมตตา กตัญญูปลดปล่อย ท่านผู้มีพระคุณก็ดี พระโพธิสัตว์ทั้งหลายก็ดี  ขึ้นมาจากความทุกข์ จากภพที่เป็นทุกข์ บุญเกิด กุศลเกิด  มหากุศลเกิด ขอบุญทั้งหลายจงหลั่งไหล เป็นอภัยทานเป็นโมฆะกรรม สลายล้างวิบากอกุศล แรงอาฆาต แรงจองเวร แรงพยาบาท จากบรรดาเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย  จากบุคคลที่คิดร้าย คิดลบต่อข้าพเจ้าทั้งหลาย กระแสพลังลบ กระแสอวิชาคุณไสย ขอบุญทั้งหลาย กุศลทั้งหลายจงเป็นบุญศักดิ์สิทธิ์อัศจรรย์  สลายล้างกระแสคลื่นแห่งการจองล้างจองผลาญ จองเวรก่อกรรม ทั้งต่อข้าพเจ้า ต่อครอบครัวของข้าพเจ้า  ต่อวงศ์ตระกูลของข้าพเจ้า ต่อประเทศชาติของข้าพเจ้า ขอกระแสวิบาก  ความอาฆาตแค้น การจองเวรทั้งหลาย จงสลายไป จงลืมเลือนไปจากจิตจากใจ กระแสทั้งหลายจงสลายดับลงด้วยเทอญ  บุญจงส่งผล บุญจงส่งผล วิบากทั้งหลาย จงสลายตัว จงเบาบางลง จิตสว่างผ่องใส

กำหนดจิตตอนนี้นะ ให้เห็นจิตของเราสว่างอย่างยิ่ง รัศมีกายแห่งกายพระวิสุทธิเทพยิ่งสว่างอย่างยิ่ง กระแสวิบากอกุศลทั้งหลาย จงสลาย จงห่างไกลออกไป บุญจงส่งผล  นับแต่นี่บุญจงส่งผลทันใจ บุญใหญ่จงส่งผลเร็วพลัน

จากนั้น เราจงกำหนดจิตนะ กราบลาทุกท่านทุกพระองค์บนพระนิพพาน แยกอาทิสมานกายกราบทุกท่านทุกๆ พระองค์ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยเจ้าทั้งหลาย เทพพรหมเทวาทั้งหลาย ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย เมื่อกราบลาแล้ว  ก็กำหนดจิต น้อมกระแสจากพระนิพพาน ลงมาสู่กายเนื้อ ลงมาสู่บ้านเรือนเคหะสถาน พุ่งจิตกลับมาที่ร่างกายกายเนื้อ พร้อมกับน้อมกระแส จากพระนิพพานลงมาเป็นธรรมโอสถ ชำระล้างฟอกธาตุขันธ์ ให้สะอาดบริสุทธิ์หมดจด สลายโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง สลายโรคร้าย กายจงปรากฏรัศมีออร่า กายจงปรากฏความผ่องใส

จากนั้นอธิษฐานจิต เป็นคำอธิษฐานหลัง การปฏิบัติการเจริญพระกรรมฐานมีกำลังสูง มีความศักดิ์สิทธิ์ กำหนดจิตอธิษฐาน ตามเหตุของแต่ละบุคคล

จากนั้นให้เรานะตั้งจิตโมธนาสาธุกับเพื่อนๆ กัลยาณมิตร ที่มีความรัก ความสามัคคีกัน มีความเพียรบากบั่น ฝึกปฏิบัติ เจริญพระกรรมฐานเป็นบุญ เป็นกุศลใหญ่ หลายคนได้ช่วย ได้โปรด บุพการี ญาติคนที่รัก เราโมทนาสาธุกับทุกคน ทุกกุศล เป็นมหาโมทนาบุญ

จากนั้นจึงหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ หายใจเข้าพุท ออกโธ    หายใจเข้าครั้งที่ สอง ธัมโม

หายใจเข้าครั้งที่  สังโฆ   ถอนจิตช้าๆ ออกจากสมาธิ ด้วยจิตที่ผ่องใสเป็นสุขอย่างยิ่ง

สำหรับวันนี้ก็ขอโมทนากับทุกคน ที่มาปฏิบัติธรรมในวันมาฆบูชา ก็ขอให้ทุกคนมีความเจริญในธรรมยิ่งขึ้นไป มีความคล่องตัว ทางด้านหน้าที่การงาน มีโชคดี มีความสุข มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง แล้วก็สำหรับใครที่สนใจในเรื่องของการช่วยเหลือผู้คน ในเรื่องสุขภาพก็สามารถมาเรียนในคอร์ส Ultimate Healer เพื่อที่จะได้ใช้พลังจิตตานุภาพ  ใช้สมาธิ ในการบำบัดเยียวยา ทั้งตัวเราเอง แล้วก็คนที่เรารัก หรือผู้อื่นได้ สำหรับวันนี้สวัสดี พบกันใหม่สัปดาห์หน้า ขอธรรมจงเจริญขึ้นในใจทุกดวงด้วยเทอญ

ถอดเสียงและเรียบเรียง โดย คุณ สิริญาณี แลบัว

You cannot copy content of this page