green and brown plant on water

รับพรปีใหม่

เวลาอ่าน : 3 นาที

เสียงธรรมจากห้อง  “เมตตาภิรมย์กรรมฐาน” 

วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2566

เรื่อง รับพรปีใหม่

โดย อาจารย์ คณานันท์ ทวีโภค

กำหนดจิต ทรงสมาธิ ใช้สติกำหนดในความรู้สึกตัวทั่วพร้อมทั่วทั้งร่างกายของเรา ผ่อนคลายปล่อยวาง ผ่อนคลายร่างกาย ผ่อนคลายกล้ามเนื้อพร้อมกับความรู้สึกทิ้งกาย ทิ้งความรู้สึกทิ้งอาการความเกาะความยึดในร่างกายทั้งหมด ให้การปลดปล่อยกำลังผ่อนคลายทั่วร่างกายเป็นการปลดความเกาะในร่างกายขันธ์ห้า วางกายแล้วจึงวางจิต วางภาระทั้งหลาย วางความกังวลทั้งหลาย กิจการงานทั้งหลายที่เป็นหน้าที่ของเรา เราวางลง ทำความรู้สึกว่า เมื่อเรามาปฏิบัติธรรม เราวางทุกสิ่งทุกอย่างได้ แม้สิ่งนั้นเป็นเรื่องงานที่เรากังวลในกิจการงานกุศลที่เราจะทำต่อไปข้างหน้าก็ตาม  วางภาระของใจทั้งหลาย วางภาระของโลกทั้งหลาย วางความห่วงทั้งหลายออกไปจากใจ เหลือเพียงแต่ความสงบของจิต อยู่กับลมหายใจสบาย รู้ในลมตลอดทั้งสายทั้งกองลม ลมหายใจละเอียด สงบ เบาสบาย 

เมื่อวางทุกสิ่งทุกอย่าง จิตเข้าถึงความสบาย ลมสบายอารมณ์จิตสบาย อารมณ์จิตในความรู้สึกเบาสบายนั้น ลมหายใจจะมีความละเอียดมีความเบาลง มีสภาวะที่เรียกว่าอุปจารสมาธิ  มีสภาวะที่จิตพร้อมเข้าสู่ความสงบ ทั้งในด้านความเป็นทิพย์ของจิต ญาณเครื่องรู้หรือแม้แต่นำไปพิจารณาธรรมเป็นวิปัสสนาญาณ ดังนั้นในการปฏิบัติธรรม เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องจดจำอารมณ์จดจำจุดที่เราจะต้องมาร์คไว้ในใจของเรา ว่าจุดใดที่เราจะต้องทำให้ได้ทำให้ถึงทำให้ทรงตัว ปล่อยวางทุกอย่าง ทั้งกายทั้งจิต ทั้งความกังวลทั้งหลาย วางลงให้ได้ง่ายดายเท่าไร จิตเข้าสู่ความสงบของสมาธิได้รวดเร็วขึ้น 

กำหนดใจของเราอยู่กับลมหายใจสบาย เข้าถึงความสงบ เข้าถึงสภาวะที่เราวาง 

กำหนดรู้ในความสงบ กำหนดรู้ในความเบาสบาย ยิ่งวางได้มากเท่าไร จิตเรายิ่งเข้าถึงความสงบ ยิ่งวางได้มากเท่าไร จิตเราเข้าถึงความสุขของจิตใจจากการปฏิบัติจากสมาธิ วางทุกสิ่ง นิ่ง หยุดจิตอยู่กับความสงบ จิตสงบ สว่าง ว่าง เบา ผ่องใส 

จากนั้นเราจึงกำหนดใจของเรา เดินจิตเข้าสู่สมาธิที่มีกำลังสูงขึ้น กำหนดน้อมนึกจิตของเรา จินตภาพเป็นดวงแก้วสว่างอยู่ภายในกาย จิตจากดวงแก้วสว่างใสค่อยๆแปรสภาวะเป็นดวงเพชรระยิบระยับแพรวพราว มีแสงสว่างเส้นแสงรัศมีสีรุ้งกระจายออกจากจิตของเราที่เป็นเพชรประกายพรึก กำหนดจิตของเราว่า “จิตคือกสิณ กสิณคือจิต” จิตคือแก้วอันเป็นประภัสสร จิตของเราเข้าถึงปฏิภาคนิมิต จิตที่เป็นเพชรเปล่งประกายสว่างพร้อมกับพิจารณาติดตามรู้ในอารมณ์จิต เชื่อมโยงอารมณ์เวทนาเข้ากับภาพนิมิต จิตเรายิ่งแพรวพราวระยิบระยับเปล่งแสงสว่างมากเท่าไร อารมณ์จิตของเรายิ่งเป็นสุขปิติเอิบอิ่มเพิ่มพูนมากขึ้นเพียงนั้น ยิ่งเปล่งประกายแสงสว่างผ่องใส จิตยิ่งเปี่ยมพลังแห่งความสุข ความสุขความผ่องใสประจุแน่นอยู่เต็มจิตเต็มใจของเรา จนรู้สึกได้ว่าแสงสว่างความอิ่มเอิบใจเต็มล้นอัดแน่นอยู่ภายในจิต ความอิ่มใจก็คือบุญกุศล บุญคือความสุขความอิ่มใจ ยิ่งจิตของเราแต่ละดวงที่ฝึกที่ปฏิบัติมีความอิ่มใจเปี่ยมล้นท่วมท้นในจิตมากเท่าไร จิตเราก็เปี่ยมบุญเปี่ยมกุศลเปี่ยมความสุขมากเพียงนั้น ยิ่งชินกับสภาวะที่จิตเปล่งประกายแสงสว่างอิ่มอกอิ่มใจอิ่มบุญจนล้นทะลักเอ่อล้นเต็มจิตเต็มใจ จิตก็สะสมพลังงานศักย์เกิดเป็นจิตตานุภาพแห่งบุญกุศลที่รวมตัวในจิตเรามากขึ้นเพิ่มขึ้นเพียงนั้น

กำหนดน้อมจิตว่าวันนี้เป็นวันสิ้นปี 31 ธันวาคม บุญกุศลถ้านับเอาเฉพาะที่เราได้กระทำบำเพ็ญมาตลอดทั้งปี ก็ขอให้บุญนี้มารวมตัวกัน เกิดเป็นความอิ่มใจสุขใจ ทานที่ทำถวายมหาสังฆทานที่ร่วมบุญกันถวาย รวมกันมหาสังฆทานมากกว่าร้อยชุดอารมณ์จิตของเราที่ได้เจริญพระกรรมฐานมาตลอดปี การเจริญเมตตาพรหมวิหาร เมตตาอัปปันนาณฌาญที่บำเพ็ญมาตลอดปี พระพุทธรูปที่ร่วมสร้างมาตลอดปี บุญทั้งหลายเต็มล้นใน จิต วันสิ้นปีรวมบุญรวมกุศลไว้ในจิต จิตเรามีบุญรักษาบุญคุ้มครอง บุญที่เราทำสะสมไว้ไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะปีนี้ ยังมีบุญนับตั้งแต่อดีตปีผ่านๆมาก็ดี พิจารณาให้เป็นอดีตังสญาณนับย้อนถอยหลังไปในหลายๆปีที่ผ่านมาก็ดี บุญใหญ่ทั้งหลายที่เราเคยสร้างเคยบำเพ็ญก็ดี ถอยหลังพิจารณาไปจนถึงบุญที่เราทำบำเพ็ญมาในอดีตชาติ บุญที่ยาวไกลจนกระทั่งถึงบุญที่เราเคยร่วมถวายทานทั้งหลายก็ดีกับพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันหรือพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ก่อนพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันก็ดี บุญทั้งหลายไม่ได้หายไปไหน ยังสะสมรวมตัวอยู่ในจิตของเรา กำหนดจิตพิจารณาให้จิตของเราตอนนี้รวมบุญรวมบารมี บุญกุศลทั้งหลายจงรวมตัวกันจนจิตของเราเปล่งประกายเจิดจ้าเจิดจรัสสูงที่สุด จิตประภัสสรที่สุด จิตผ่องใสผ่องแผ้วเบิกบานที่สุด กำหนดน้อมจิตอธิษฐานให้บุญรวมตัวส่งผล ผลักดันให้วันสิ้นปีนี้บุญส่งผลผลักดันให้เราก้าวข้ามสู่ปีใหม่ชีวิตใหม่ นับแต่นี้บุญส่งผลทันใจ บุญใหญ่ทรงผลไวอัศจรรย์ 

กำหนดพิจารณามองเห็นจิตเราสว่างเจิดจรัสผ่องแผ้วเบิกบานอย่างยิ่ง จิตยิ้มใบหน้าตายิ้ม ใจเอิบอิ่ม บุญรวมตัวล้นใจ บุญของเรามีทุกคนปฏิบัติมาถึงจุดนี้ บุญของเราล้นเหลือมากเพียงพอที่จะยังประโยชน์ให้เราสามารถเข้าถึงซึ่งพระนิพพานชาตินี้ได้ บุญที่รวมตัวมากมายเพียงพอที่จะช่วยทำนุบำรุงยังประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ต่อชาติ ต่อสถาบัน รวมจิตรวมใจของเรา นึกภาพจิตของเราเปล่งประกายสว่าง 

จากนั้นกำหนดจิตให้จิตที่เป็นเพชรประภัสสรนั้นปรากฏแปรสภาวะเป็นองค์พระ เป็นองค์พระที่เป็นเพชรระยิบระยับแพรวพราวสว่าง น้อมจิตถึงพุทธนิมิต ขอพุทธบารมีของพระพุทธเจ้าเมตตามาสถิตเป็นหนึ่งเดียวกับพุทธนิมิตในจิตของเรา ภาพองค์พระสว่างแจ่มใสผ่องใสเต็มที่ 

กำหนดจิตว่าจิตของเรานั้นเชื่อมกระแสกับพระพุทธองค์ เมื่อไรก็ตามจิตเราน้อมนึกถึงภาพองค์พระในจิต จะเป็นภาพพระหนึ่งฐาน พระสามฐานหรือเป็นภาพพระที่เราปรากฏเป็นพระพุทธปฏิมาที่เราไปกราบไหว้สักการะบูชาที่วัดวาอารามใดหรือแม้แต่ที่บ้านเคหะสถานของเราเองก็ดี กำหนดจิตว่านับแต่นี้ตราบถึงพระนิพพาน เราเชื่อมจิตถึงพระพุทธองค์ ตาเห็นรูป จิตถึงนาม นัยน์ตาสัมผัสภาพองค์พระ จิตเราถึงพระพุทธเจ้าบนพระนิพพาน กำหนดจิตเป็นกำลังใจของเรานับตั้งแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ไม่ต้องให้ใครมาเชื่อมจิตให้อีกต่อไป จิตเราเราเป็นผู้รู้ของเรา กินข้าวเรารู้ว่าเราอิ่มฉันใด ยามที่เรานึกถึงพระรัตนตรัยเรารู้ว่าจิตเราถึงพระพุทธเจ้าฉันนั้น ไม่ต้องมีความลังเลสงสัยเป็นวิจิกิจฉา กายทิพย์กราบพระ ผัสสะสัมผัสได้ถึงฝ่ามือของกายทิพย์ที่เราสัมผัสถึงพระบาทขององค์พระศาสดา ความรู้สึกชัดเจนเต็มจิตเต็มใจจนสิ้นความสงสัยทั้งปวง เมื่อไรก็ตามที่เรากราบพระเราถึงพระ เมื่อนั้นจิตเราก็เข้าถึงไตรสรณคมน์อย่างแท้จริง กราบพระแล้วถึงพระพุทธเจ้าบนพระนิพพานอย่างสิ้นวิจิกิจฉาความลังเลสงสัยจึงจะเป็นอารมณ์จิตในการตัดสังโยชน์ในข้อตัดวิจิกิจฉาออกไปได้

กำหนดน้อมจิตของเราตอนนี้ อาราธนาบารมีพระพุทธองค์ท่านทรงเมตตาสงเคราะห์ ยกจิตอาทิสมานกายของเราขึ้นไปบนพระนิพพาน น้อมจิตกราบพระพุทธเจ้า กราบให้ถึงสมเด็จองค์ปฐม กราบให้ถึงพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ พระอริยะเจ้าทุกๆพระองค์

จากนั้นอธิษฐานจิต ขออาราธนาบารมีขอพระโพธิสัตว์พระมหาโพธิสัตว์ เทพพรหมเทวาผู้ใหญ่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย มีพระอินทร์คือท่านปู่ท่านย่า ท่านท้าวสหัมบดีพรหมผู้เป็นใหญ่ในพรหม ท้าวมหาราชทั้งสี่ พญายมราช เทพพรหมเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้มีฤทธานุภาพ อาทิเช่น พระสยามเทวาธิราช ดวงวิญญาณองค์บูรพมหากษัตราธิราชเจ้าในทุกพระองค์ทุกราชวงศ์ นับตั้งแต่ทวารวดีเป็นต้นมาจนถึงในราชวงศ์จักรี อาราธนาบารมีเทวดาผู้ใหญ่ พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระหลักเมือง พระคลังมหาสมบัติ เทพพรหมเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาประจำนักษัตร เทวดาประจำวันเกิด ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เทพพรหมเทวาทั้งหลาย ได้ปรากฏองค์อยู่บนพระนิพพานเป็นมหาสมาคมใหญ่ กายทิพย์ของเราขอจงปรากฏในสภาวะกายแห่งพระวิสุทธิเทพ สำหรับท่านที่ตั้งจิตปรารถนาในพระนิพพานในชาติปัจจุบันหรือตั้งจิตในสาวกภูมิ ส่วนท่านที่ตั้งกำลังใจเป็นพุทธภูมิ ลาหรือไม่ลาก็ดี ถ้าลาแล้วก็กำหนดจิตในกายของพระวิสุทธิเทพแต่ท่านที่ยังไม่ลายังใช้กำลังบารมีพุทธภูมิในการทำงานก็จงอธิษฐานจิตปรากฏเป็นกายพระโพธิสัตว์เต็มกำลัง กายพระโพธิสัตว์เต็มกำลังนั้นก็คือกายของพระโพธิสัตว์พันกรเปล่งแสงสว่าง ประทับบนบัลลังก์ดอกบัวแก้ว พระหัตถ์ทั้งพันกรถือเครื่องทิพย์อันเกิดขึ้นจากการบำเพ็ญบารมีและเป็นไปเพื่อประโยชน์สงเคราะห์มวลหมู่ในเวไนยสัตว์

กำหนดจิตจดจ่ออยู่กับสภาวะความเป็นกายทิพย์ของตัวเราเองแต่ละบุคคลให้ชัดเจนที่สุดพร้อมกับพิจารณาเป็นการตัดขันธ์ห้าร่างกาย ว่าเราไม่ใช่ร่างกายเนื้อขันธ์ห้า เราคือกายทิพย์ อาทิสมานกายที่มาอาศัยร่างกายเนื้อขันธ์ห้า จะเป็นด้วยการสร้างบารมีก็ดี หรือด้วยการที่เราอธิษฐานจิตลงมาเกิดเพื่อปฏิบัติในมรรคผลพระนิพพานก็ดี ดังนั้นเราไม่ใช่ร่างกายที่เป็นกายเนื้อที่สมมุติว่าชื่อนั้นชื่อนี้ แต่เราเป็นอาทิสมานกายที่เปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติไป ท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏนี้ เราตัดกายวางกายทิ้งกายที่เป็นกายเนื้อ ทิ้งสมมุติทิ้งอดีต จดจ่ออยู่กับสภาวะของความเป็นกายทิพย์ ตั้งกำลังใจว่ากายทิพย์ของเราตอนนี้เมื่อทรงสภาวะเป็นการพระวิสุทธิเทพก็กำหนดให้ชัดเจนเต็มกำลังที่สุด มีความสว่างไสวชัดเจนที่สุด ทรงอารมณ์ในอารมณ์พระนิพพาน ตัดชาติตัดภพ ตัดการเวียนว่ายตายเกิด ตัดห่วง ตัดวัฏสงสาร ตัดเยื่อใยทั้งหลายที่เรามีต่อบุคคลทั้งปวง

เมื่อทรงสภาวะในความเป็นกายพระวิสุทธิเทพชัดเจนเต็มกำลัง อารมณ์จิตเป็นอารมณ์ของอารมณ์พระนิพพานแล้ว เราจึงกำหนดจิต อธิษฐานให้ปรากฏบัลลังก์ดอกบัวแก้วพร้อมกับกำหนดให้กายพระวิสุทธิเทพคุกเข่านั่งกระโหย่งประนมมือ ตั้งจิตถึงพระพุทธเจ้าทุกพระองค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เมตตามาปรากฏอยู่บนพระนิพพาน ณ ขณะนี้ ตั้งจิตอธิษฐาน เนื่องในวันสิ้นปี กำหนดตั้งกำลังใจว่า ตลอดปีที่ผ่านมารวมไปถึงในทุกๆปี อดีตชาติก็ดีที่ผ่านพ้นไป สิ่งใดที่ข้าพเจ้าเคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย ปรามาสพระรัตนตรัย ปรามาสสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย มีครูบาอาจารย์ พ่อแม่ ท่านผู้มีพระคุณ เทพพรหมเทวาทั้งหลาย พระโพธิสัตว์พระมหาโพธิสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าท่านจะอยู่ในสภาวะความเป็นทิพย์หรืออยู่ในสภาวะของการเป็นมนุษย์มาสร้างบารมีก็ดี ข้าพเจ้าขอน้อมกราบขอขมาลาโทษต่อพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

“สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต”

ข้าพเจ้าขอกราบขมาลาโทษ กราบขอขมาพระรัตนตรัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ เทพพรหมเทวารวมไปถึงเจ้ากรรมนายเวรทั้งปวง ขอขมาด้วยความน้อมสำนึกผิดในสิ่งที่ประมาทพลาดพลั้งทางกายวาจาใจ ทั้งที่เจตนาก็ดีไม่เจตนาก็ดี ระลึกได้ก็ดีระลึกไม่ได้ก็ดี ขอการขอขมากรรมของข้าพเจ้าในวันสิ้นปีนี้ ท่านทั้งหลายได้โปรดงดโทษทั้งปวงแก่ข้าพเจ้า อโหสิกรรมให้อภัยทานต่อข้าพเจ้าหมดสิ้นวิบากกรรมด้วยโมฆะกรรม  ให้ข้าพเจ้านี้พ้นจากกระแสของวิบากอกุศลและกรรมทั้งปวงอันเนื่องมาจากการปรามาสท่านทั้งหลายด้วยเถิด

จากนั้นน้อมกราบแทบพื้น น้อมจิตถ่อมใจด้วยความรู้สึกขอโทษ ขออโหสิกรรมอย่างสุดหัวจิตหัวใจอย่างแท้จริง น้อมสุดหัวจิตหัวใจจนรู้สึกได้ว่ามีกระแสส่งมาผ่านมาสัมผัสทางจิตได้ว่า การขอขมากราบขอขมานี้ ท่านให้อภัยแล้ว กระแสของการให้อภัยปรากฏต่อใจของเรา กระแสความรู้สึกว่าไม่เป็นไรให้อภัยแผ่ผ่านมาสู่จิตสู่ใจของเรา ใครที่สัมผัสได้ก็ขอให้รู้ได้ว่าวิบากอกุศลทั้งหลายก็จะค่อยๆปลด ค่อยๆเปลื้อง ค่อยๆถอนออกไปจากชีวิตของเราในวันสิ้นปีนี้ 

น้อมจิตก้มกราบขอขมาไว้นะให้หมด น้อมจิตถ่อมใจ ขอโทษจากจิตใจที่ลึกที่สุดละเอียดที่สุดให้ได้ 

ขอโทษสุดหัวใจ  ขอขมาสุดหัวจิตหัวใจ 

ขอวิบากความอาฆาตแค้นอุปสรรคทั้งหลายจงสลายคลายจางออกไปด้วยการอโหสิกรรมการขมากรรมซึ่งกันและกัน

จากนั้นกำหนดจิตน้อมใจของเราอธิษฐานต่อหน้าพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่า “ข้าพเจ้าก็ขออโหสิกรรมให้อภัยทานต่อทุกท่านทุกรูปทุกนามที่เคยเบียดเบียนล่วงเกินปรามาสกล่าวโทษใส่ร้ายทำร้ายข้าพเจ้าทางกาย วาจา ใจ  ข้าพเจ้าขอเมตตาอโหสิกรรมให้ อภัยทานให้ มหาอภัยทานต่อทุกท่านทุกรูปทุกนาม สลายความอาฆาตแค้นพยาบาท การจองเวรทั้งปวง สลายสิ้นจากจิตของเรา อภัยทาน มหาภัย อโหสิกรรม ให้อภัยทุกรูปทุกนามทุกดวงจิต อารมณ์จิตประดุจอารมณ์จิตของพระโพธิสัตว์ อารมณ์จิตประดุจมหาสมุทร เมตตากว้างไกล กว้างใหญ่ไพศาล ให้อภัยอย่างไม่มีประมาณ วางให้หมด อภัยให้หมด  สลายล้างตัดความอาฆาตพยาบาทจองเวรให้สิ้นจากใจของเรา”

กำหนดน้อมใจว่าจิตของเราเป็นผู้ปราศจากการเบียดเบียนทั้งหลาย จิตเรายิ่งสว่างขึ้น ใสขึ้น  กายพระวิสุทธิเทพยิ่งสว่างขึ้น เมื่อเราละสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายในวันปีเก่า เราก็กำหนดจิตขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีพระพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐมทรงเป็นประธาน 

จากนี้กำหนดจิตในแต่ละบุคคล ทรงสภาวะในความเป็นกายทิพย์ จะเป็นพระวิสุทธิเทพก็ดี กายของพระโพธิสัตว์ก็ดี อธิษฐานจิตขอบารมีพระพุทธองค์ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพพรหมเทวา ท่านใดเมตตาสงเคราะห์เกื้อกูลข้าพเจ้า ท่านที่เคยเป็นพ่อแม่ เคยเป็นครูบาอาจารย์ ขอเมตตาท่านปรากฏเบื้องหน้าข้าพเจ้าแต่ละบุคคล ขอเมตตาประสิทธิ์ประสาทพรอันเป็นพรอันประเสริฐเลิศยิ่งกว่าผู้ใดจำเพาะเจาะจงตรงวาระจิตของข้าพเจ้า ขอท่านเมตตาสงเคราะห์ข้าพเจ้าทุกๆพระองค์ด้วยเทอญ

จากนั้นกำหนดจิตกำหนดดูกำหนดรู้กำหนดรับพรในแต่ละบุคคลนะ ทรงสภาวะกายพระวิสุทธิเทพคุกเข่าประนมมืออยู่เบื้องหน้าท่านทั้งหลายที่มาสงเคราะห์โดยตรงกับเราแต่ละบุคคล กำหนดดูกำหนดรู้เป็นปัจจัตตังของเรา พอปฏิบัติเสร็จแล้ว วันนี้เราก็จดบันทึกเล่าในกลุ่ม Line ของเมตตาภิรมย์สมาธิ

กำหนดรู้ กำหนดรับพรไปนะ อธิษฐานว่า ขึ้นปีใหม่ขอให้บารมีของเราทุกคนเปิดขึ้น คล่องตัวขึ้น เจริญก้าวหน้าขึ้น นึกคิดสิ่งใดสำเร็จสมความปรารถนา สิ่งใดที่เป็นของวิเศษ เป็นของทิพย์ เป็นญาณเครื่องรู้ความเป็นทิพย์ของจิตที่พึงได้ก็ขอให้ได้ ขอให้ผุดรู้ ขอให้ปรากฏขึ้น เกิดความก้าวหน้าปฏิบัติตรงในธรรม

พรจงปรากฏ จงสัมฤทธิ์สำเร็จ พรอันเป็นมงคลจงประสิทธิ์ประสาทรวมลงสู่จิตสู่กายวาจาใจของเราทุกคนแต่ละบุคคล 

ซึมซับรับกระแสอันเป็นมงคลจากพรที่ท่านแต่ละพระองค์ท่านประสิทธิ์ประสาทให้เรา เมื่อเรารับพรที่เป็นเรื่องของปัจจัตตัง เป็นพรที่เราขอมาเพื่อตนแล้ว ต่อไปเราก็อาราธนาขอพรให้กับส่วนรวมบ้านเมือง 

ตั้งจิตอธิษฐานถึงพระพุทธเจ้า เทพพรหมเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเมตตามาปรากฏบนพระนิพพาน ขอน้อมกระแสให้บุญบารมีของทุกท่านทุกๆพระองค์รวมตัวเป็นกระแสบุญศักดิ์สิทธิ์จากพระนิพพาน น้อมอาราธนาบารมีลงมาเป็นลำแสงสว่าง ลงมายังสถานปฏิบัติธรรมทุกแห่ง วัดวาอารามทุกแห่ง สำหรับใครที่มีบารมีจะต้องดูแลสถานปฏิบัติธรรมวัดวาอารามที่ปฏิบัติฝึกพระกรรมฐาน หรือสถานที่ที่เราจำเป็นที่จะต้องจัดงานจัดพิธีกรรมต่างๆในกิจการเพื่อพระพุทธศาสนาเพื่อชาติบ้านเมือง ก็ขอให้นับแต่นี้ผู้ที่มีหน้าที่เพื่อส่วนรวมมีกำลังมีบารมีที่จะอาราธนาบารมีเชื่อมกระแสจากพระนิพพาน ลงมายังสถานที่ ลงมายังปะรำพิธี ลงมายังพุทธมณฑลสถาน ให้เกิดกระแสแห่งพระพุทธองค์ กระแสแห่งมรรคแห่งผล กระแสแห่งพระนิพพานด้วยเถิด

จากนั้นอาราธนาให้กระแสจากพระนิพพานลงมายังวัดอารามทุกแห่งทั่วประเทศไทยทั่วทุกประเทศทั่วโลก ขอกระแสความศักดิ์สิทธิ์พุทธานุภาพ เทวดาพรหมผู้เป็นสัมมาทิฐิ จงมาสถิตรักษาองค์พระพุทธปฏิมา พระพุทธรูป จะเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ พระพุทธรูปชำระหนี้สงฆ์ พระพุทธรูปองค์ย่อม ลงมาตามบ้านเรือนเคหะสถาน สถานที่ต่างๆ จะองค์เพียงเล็กนิดเดียวก็ตาม ก็ขอให้มีกำลังแห่งพุทธานุภาพปรากฏ ขออาราธนาบารมี กำลังพุทธานุภาพ เทพพรหม เทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาสถิตอยู่ในพระเครื่อง วัตถุมงคล  ตะกรุด ผ้ายันต์ เครื่องรางของขลัง อันเป็นกำลังแห่งพุทธานุสติ กำลังแห่งสัมมาทิฐิ กำลังแห่งความบริสุทธิ์ และขอกำลังแห่งพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ เทวดาพรหม ได้สถิตประสิทธิ์ประสาท ชำระล้างอวิชชาคุณไสย รูปลักษณ์อันเป็นอัปมงคล ฝังรูปฝังรอย กระทำวิชชาอันหยาบช้า วางยาพระพุทธศาสนา ชาติ แผ่นดิน ให้เกิดความแตกแยก อวิชชาอันมาทำร้ายทำลายสถาบัน ขอกำลังแห่งพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ เทวดาพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ฝ่ายสัมมาทิฐิ จงประสิทธิ์ประสาทชำระล้างสลายมิจฉาทิฐิอวิชชาทั้งปวงออกไปจากดินแดนสุวรรณภูมิ วัดวาอารามทั้งหลาย สถานปฏิบัติธรรมทั้งหลาย บ้านเรือนเคหสถานทั้งหลาย ขอกำลังแห่งอรูปฌานดับล้างสลายล้างอวิชชารูปลักษณ์คุณไสยสิ่งที่เป็นอัปมงคลต่อบุคคล ต่อชาติบ้านเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอจงสลายล้างไปในวันสิ้นปี อวิชชาจงสลายสิ้นจากแผ่นดินในยุคชาววิไลด้วยเถิด 

ความศักดิ์สิทธิ์อัศจรรย์จงปรากฏ มหาบารมีทั้งหลายของพระโพธิสัตว์เจ้า ขอจงรวมจิตรวมใจปรากฏ สลายล้างดับล้างความมืดบอดแห่งอวิชชา ความมืดบอดแห่งมิจฉาทิฐิทั้งปวง สลายมิจฉาเพื่อปรากฏสัมมาทิฐิ สลายความหยาบช้าเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคชาววิไล ขอกำลังจิตตานุภาพ กำลังบารมีของพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์บนพระนิพพาน กำลังของพระปัจเจกพุทธเจ้า กำลังของพระอรหันต์ พระอริยะเจ้า กำลังของเทพพรหมเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายตลอดรวมจนถึง กำลังจิต กำลังใจ กำลังบุญของสาธุชนคนดี เพื่อผู้ที่ปฏิบัติเจริญพระกรรมฐาน บุคคลที่ลงมาจุติบนโลกมนุษย์เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองตราบห้าพันปี ขอกำลังบุญกุศลทั้งหลายดังที่กล่าวมา กำลังแห่งครูบาอาจารย์ กำลังแห่งบูรพมหากษัตราธิราชเจ้า กำลังแห่งพระสยามเทวาธิราช กำลังครุฑนาคผู้พิทักษ์พระพุทธศาสนา กำลังบารมีแห่งบูรพมหากษัตราธิราชเจ้า ผู้รักษาชาติรักษาแผ่นดิน ขอจงรวมกันเป็นอภิจิตสลายล้างมิจฉาทิฐิอวิชชาทั้งปวงให้หมดสิ้นไปในทุกเขตในทุกดินแดนทั่วโลก 

ขอโลกจงปรากฏความสว่างผ่องใสแห่งยุคชาววิไลขึ้นด้วยเถิด

กำหนดจิตน้อมใจให้เห็นแสงสว่างจากพระนิพพานลงมายังโลกมนุษย์ ลงมายังสถานปฏิบัติธรรม ลงมายังวัดวาอารามที่เราเคารพรักนับถือ ที่เราดูแล ที่เรามีกิจการที่จะต้องทำพิธีกรรม สอนสมาธิ สร้างบุญกุศล ขอกระแสและสถานที่ทุกจุดทุกเขตเชื่อมกับพระนิพพานโดยตรง กระแสธรรมจงเป็นกระแสแห่งมรรคผลโดยตรงจากพระนิพพาน กระแสธรรมอันเป็นทิพย์จากพระพุทธองค์โดยตรง และก็ขอให้กระแสจากพระนิพพานนี้เชื่อมลงมายังตัวข้าพเจ้า กายเนื้อที่อยู่บนโลกมนุษย์ บ้านเรือนเคหะสถานของข้าพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูป พระเครื่อง พระบูชา เครื่องรางของขลังทั้งหลาย ขอน้อมจิตเชื่อมกระแสจากพระนิพพานโดยตรง เชื่อมกระแสพุทธานุภาพโดยตรงด้วยเถิด

จากนั้นเราช่วยกันอธิษฐานจิต ขอบารมีกระแสบุญจากพระนิพพาน ญาณบารมีของเทพพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้ทรงฤทธิ์ทั้งหลาย ขอเมตตาเล็งทิพยจักษุญาณญาณอันเป็นทิพยเนตรอันประเสริฐ เล็งเห็นหมู่สาธุชนผู้กระทำความดีในวันสิ้นปี ไม่ว่าหมู่ชนทั้งหลายร่วมพิธีสวดมนต์ข้ามปีในวัดวาอารามสถานธรรมใดก็ตาม เตรียมการที่จะสวดมนต์ข้ามปี ณ เคหสถานบ้านเรือนของตนก็ตาม กำหนดตั้งใจที่จะปฏิบัติเจริญพระกรรมฐานข้ามปีตามวัดวาอารามสถานปฏิบัติธรรมหรือเคหะสถานของตนก็ตาม ขอเทพพรหมเทวดาทั้งหลายน้อมกระแสบุญเต็มกำลังลงมายังบุคคลทั้งหลายผู้ตั้งจิตตั้งใจสร้างกุศล ขอบารมีจงปรากฏ ขอบุญกุศลจงบันทึกเต็มกำลัง เทพพรหมเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธองค์ทรงรับรู้รับทราบ ความดีทั้งหลายจงถักทอเรียงร้อยเป็นกระแสบุญอันศักดิ์สิทธิ์ช่วยดึงให้ผืนแผ่นดินไทยนั้นพ้นจากภัยพิบัติพ้นจากวิบากอกุศล ก้าวเข้าสู่ยุคชาววิไลได้อย่างอัศจรรย์

จากนั้นน้อมกระแสแสงสว่างลงมา ขอให้ญาณเครื่องรู้ของเรารู้เห็น อารมณ์จิตของเราอยู่บนพระนิพพานมองลงมาบนโลก เห็นวัดวาอารามแต่ละแห่งแต่ละสถานที่ที่เขาเตรียมการสวดมนต์ ในพระอุโบสถบ้าง ในเต็นท์ปะรำพิธีบ้าง บางแห่งมีการผูกสายสิญจน์คล้องศีรษะ บางแห่งก็ปูอาสนะเตรียมหนังสือสวดมนต์ เตรียมการสวดมนต์ในแต่ละลักษณะวิสัยของแต่ละสำนักแต่ละสาย 

เราน้อมจิตพิจารณาเห็นโดยถ้วนทั่วในทุกวัดทุกที่ โมทนาสาธุกับจิตเจตนาอันเป็นกุศลของทุกคน บุญจงสำเร็จ บุญจากการโมทนาบุญจงสำเร็จ บุญที่ทุกคนร่วมจิตร่วมใจทำขอจงรวมตัวกันส่งผลอัศจรรย์ให้ชาติบ้านเมืองรุ่งเรืองก้าวเข้าสู่ยุคชาววิไลด้วยเทอญ

บุญเป็นเหตุ ขอจงเกิดผล ผลจงเป็นอัศจรรย์ กำหนดดู กำหนดรู้ กำหนดโมทนา แล้วก็รวมไปถึงก็เราอีกหลายคนที่อาจจะตั้งใจว่าหลังจากปฏิบัติเจริญพระกรรมฐานแล้ว วันนี้ก็จะร่วมที่จะสวดมนต์ข้ามปี ก็ขอให้ตั้งกำลังใจทรงอารมณ์กายทิพย์สวดอยู่บนพระนิพพานอยู่กับพระพุทธเจ้า เชื่อมกระแสกับคนที่สวดมนต์ทำความดีทั่วแผ่นดินทั่วโลก ให้บุญเขาถึงพระพุทธองค์เช่นเดียวกับที่เราใช้กำลังใจถึงพระพุทธองค์ได้

จากนั้นให้เราตั้งกำลังใจ ขอนับแต่นี้ขึ้นปีใหม่ชีวิตใหม่ กำลังใจใหม่ mindsetใหม่ บารมีเปิด ความเข้มแข็งเด็ดขาด ตัดสินใจถูกต้องแม่นยำทันใจครบถ้วนครอบคลุมในประโยชน์ทั้งทางโลกและทางธรรม สายบุญสายบารมีสายทรัพย์ เปิดเต็มกำลังเต็มอัตรา กำลังฌาน กำลังสมาบัติ กำลังสมาธิ กำลังประกาศิต บารมีทั้งหลายจงสำเร็จสัมฤทธิ์อัศจรรย์กันทุกคน

จากนั้นน้อมกราบทุกท่านทุกๆพระองค์ ใช้กายทิพย์กราบ เมื่อกราบลาแล้วก็พุ่งกายทิพย์ลงมายังกายเนื้อ น้อมกระแสจากพระนิพพานลงมาเป็นลำแสงสว่างคลุมกาย ขอกระแสในการเจริญพระกรรมฐาน การปฏิบัติบูชา จงเป็นกระแสบุญชำระล้างฟอกกายหยาบ ฟอกธาตุขันธ์ สลายล้างโรคภัยไข้เจ็บวิบากอกุศลทั้งปวง สิ่งที่เป็นอัปมงคล สิ่งที่เป็นมิจฉาทิฐิทั้งหลาย ความหลงผิดวิบากทั้งหลาย ให้ห่างไกลจากพระนิพพาน ให้ห่างไกลจากพระรัตนตรัย ขอจงสลายออกไปจากกายวาจาใจของข้าพเจ้าทุกคน โรคภัยไข้เจ็บจงสลายตัวไป สิ่งที่เป็นอัปมงคลจงสลายตัวไป วิบากอกุศลจงสลายคลายไป สิ่งเข้ามาแทนที่มีแต่อุดมมงคลพรอันประเสริฐ บารมีอันเปิดเต็มบริบูรณ์ สายทรัพย์สายสมบัติทิพยสมบัติทั้งหลายจงหลั่งไหลลงมาสู่เราทุกคน

จากนั้นจึงน้อมจิตโมทนาสาธุกับกัลยาณมิตรทุกคนที่ปฏิบัติธรรม โมทนาสาธุกับบุญที่ถวายมหาสังฆทานในวันสิ้นปีนี้ ขอบุญจงทรงผลทันใจ ขอบุญใหญ่ทรงผลก่อน ขอพรของหลวงพ่อจงเมตตาประสิทธิ์ประสาท รวยชาตินี้นิพพานชาตินี้ รวยชาตินี้นิพพานชาตินี้ รวยชาตินี้นิพพานชาตินี้

จากนั้นหายใจเข้าลึกๆช้าๆ หายใจเข้าพุท ออกโท ครั้งที่ 2 ธัมโม ครั้งที่ 3 สังโฆ 

จากนั้นจึงถอนจิตช้าๆจากสมาธิด้วยจิตอันเป็นสุข แย้มยิ้มเบิกบานอิ่มเอมในจิต จิตเต็มไปด้วยบุญกุศล จิตเต็มไปด้วยพรอันประเสริฐ จิตเต็มไปด้วยศรัทธาความเชื่อมั่นว่าชีวิตของเรานับแต่นี้ ปีใหม่รุ่งเรืองร่ำรวยคล่องตัวแน่นอน

สำหรับวันนี้ก็ขออำนวยอวยพรน้อมเอากุศลแห่งการปฏิบัติบุญบารมีของพระรัตนตรัยเทพพรหมเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครูบาอาจารย์มาประสิทธิ์ประสาทพรให้กับเราทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราทุกคนที่มีความเพียรมีความสม่ำเสมอ คนอื่นไปเที่ยวเตร่สนุกสนานเฮฮาในวันปีใหม่ แต่ใจของเราก็ยังสม่ำเสมอในความดีในกุศลในการปฏิบัติในการเจริญพระกรรมฐาน ถือว่าสัจจะวาจา ความเพียร ความวิริยะ บารมีทั้งหลายเราเต็มเราถึงพร้อม  เทวดาพรหมทั้งหลายที่ท่านดูแลรักษาท่านก็รับรู้รับทราบเป็นอย่างดี ก็ขอให้ท่านเมตตาอำนวยพรสงเคราะห์เราเต็มกำลังเสมอทุกคน 

สำหรับวันนี้ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขสวัสดีพบกันใหม่ปีหน้า

ในวันอาทิตย์สัปดาห์หน้า

แล้วก็สำหรับใครก็ตามที่เตรียมตัวเตรียมใจจะสวดมนต์ข้ามปีก็ทรงอารมณ์กรรมฐานทรงอารมณ์บนพระนิพพานไว้ ตั้งใจว่าสวดมนต์ข้ามปี ทรงอารมณ์พระนิพพานข้ามปี เพื่อข้ามพ้นวัฏสงสาร ก็ถือว่าเป็นกำลังใจเป็นบารมีพิเศษ

สำหรับวันนี้สวัสดีครับ ให้ทุกคนมีความสุขความเจริญรุ่งเรือง

เรียบเรียงและถอดความโดย คุณ Be Vilawan

You cannot copy content of this page