green and brown plant on water

ท่องเมืองทิพย์

เวลาอ่าน : 3 นาที

เสียงธรรมจากห้อง  “เมตตาภิรมย์ กรรมฐาน”  

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2565

เรื่อง ท่องเมืองทิพย์

โดย อาจารย์ คณานันท์  ทวีโภค

สวัสดีนะครับทุกๆท่าน ในระหว่างที่เข้ามาแล้วก็กำหนดจิตของเราให้สงบผ่องใส จับลมหายใจสบายๆ ผ่อนคลายปล่อยวางทั่วทั้งร่างกายของเราผ่อนคลาย พร้อมกับทำความรู้สึกว่าเราปล่อยวางความสนใจในร่างกาย ปล่อยวาง ความสนใจ ปล่อยวางอาการทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับร่างกายออกไป จิตสติจดจ่ออยู่กับลมหายใจที่ผ่องใส เห็นลมหายใจเป็น เหมือนกับแพรวไหม เป็นกระแสของปราณ เป็นพลังชีวิต ไหลเวียนเข้าไปสู่ร่างกายของเรา สติกำหนดรู้ถึงความสงบเบา จดจ่ออยู่กับความสงบ ความเบา ความผ่องใสของจิต ว่างจากความกังวลทั้งหลาย ว่างจากกิเลสทั้งหลาย ว่างจากนิวรณ์ 5 ประการทั้งหลาย จิตจดจ่ออยู่กับความสงบ เบา สะอาด สว่าง สงบ เย็น ทรงสภาวะอารมณ์นี้ไว้ ใจสบายๆ ทรงอารมณ์ จนอารมณ์จิตของเราคงไว้ ทรงไว้ในความเบา สบาย สงบ จิตสงบสงัดจากนิวรณ์ 5 ประการ สงบจากอารมณ์ฟุ้งปรุงแต่งไปในเรื่องราวทั้งหลาย

เมื่อจิตสงบสงัดเป็นสมาธิ เป็นฌานแล้ว เรากำหนดเห็นจิตของเราในขณะนี้เป็นแก้วประกายพรึก เป็นเพชรสว่างผ่องใส จิตที่เป็นเพชรประกายพรึกสว่างรัศมีแสงสว่างของจิตที่เป็นประภัสสร เป็นประกายพรึกสว่างแผ่กระจายปกคลุมทั่วกาย ทั่วอาณาบริเวณที่เรานั่งสมาธิหรือทำสมาธิอยู่ ไม่ว่าจะอิริยาบถใดก็ตาม กระแสแสงสว่าง ของจิตสว่างครอบคลุมเป็นประกายระยิบระยับรายรอบ ใจยิ่งผ่องใสยิ่งเป็นสุข ยิ่งมีความเอิบอิ่ม จิตเข้าถึงจิตเดิมแท้อัน เป็นประภัสสร สภาวะโดยรอบกายของเราเป็นประกายพรึกระยิบระยับ สภาวะโดยรอบปรากฏสภาวะความเป็นทิพย์ ของจิต ทรงในอารมณ์ที่เห็นจิตของเราเป็นจิตประภัสสร ทรงสภาวะที่รู้สึกสัมผัสได้ถึงกระแสพลังงาน กระแสพลังของจิตครอบคลุมคุ้มครองทั่วอาณาบริเวณ อารมณ์จิตเราเป็นทิพย์ กำหนดรู้ในทิพจักขุญาณ    ขอให้เห็นเทวดาพรหมที่เสด็จ มาคุ้มครองรักษาในขณะที่เราปฏิบัติ ในขณะที่เราเจริญกรรมฐาน กำหนดรู้ กำหนดโมทนาสาธุ ที่ท่านมาสงเคราะห์ มาอนุโมทนาบุญกับเราทุกคน ใจยิ่งมีความเอิบอิ่มแช่มชื่น ใจยิ่งเป็นสุข ทรงอารมณ์ทรงสภาวะจิตนี้ไว้

กำหนดจิตต่อไป อธิษฐานขอให้เกิดกำลังแห่งพุทธานุภาพ ตั้งจิตน้อมอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้า ขอเสด็จมา เป็นพุทธนิมิตกลางดวงจิตของเราที่เป็นเพชรประภัสสรนั้น กลางดวงจิตปรากฏองค์พระส่องสว่างอยู่ภายใน กระแส กำลังแห่งพุทธานุภาพ คุ้มครองรักษาจิตของข้าพเจ้า ภายในดวงจิตที่เป็นเพชรประกายพรึกปรากฏองค์พระที่เป็นเพชร สว่างระยิบระยับละเอียดอยู่ภายใน รัศมีแสงสว่างกำลังแห่งพุทธานุภาพ ฉัพพรรณรังสียิ่งแผ่แสงสว่างกระจายออกไป มากขึ้น กำหนดน้อมขอกระแสแห่งพุทธานุภาพคุ้มครองรักษาร่างกายเนื้อของเราแต่ละคน รักษาคุ้มครองสถานที่บ้าน เรือนเคหะสถาน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราฝึกที่เราปฏิบัติธรรมนี้อยู่ ขอจงเกิดกระแสพุทธบารมีคุ้มครองสว่างผ่องใส กำหนดน้อมจิตต่อไปให้เห็นกายทิพย์ของเราอยู่ภายในลูกแก้วใสนั้น ทับซ้อนอยู่ภายใน ตั้งจิตอธิษฐานขอกำลังแห่ง พุทธานุภาพ ยกดวงจิตเป็นดวงแก้วพร้อมกับอทิสมานกายของข้าพเจ้านี้ ขอจงไปปรากฏอยู่ในเมืองบาดาลนาคนคร ไปปรากฏอยู่เบื้องหน้าท่านปู่ศรีสุทโธ พญานาคราชผู้เป็นใหญ่ กำหนดจิตอธิษฐานให้ดวงแก้วนั้นไปปรากฏอยู่หน้า แท่นที่นั่งของท่านปู่ศรีสุทโธ กำหนดจิตอธิษฐานว่าการปฏิบัติของข้าพเจ้า ขอเป็นปฏิบัติบูชาขอน้อมกระแสแห่งบุญ กุศลทั้งหลาย กระแสที่ได้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา กระแสบุญจากทานศีลภาวนา การปฏิบัติธรรมเพื่อมรรคผลพระ นิพพาน ขอกระแสนี้จงแผ่ปกปักรักษา เป็นกระแสบุญ ส่งผลไปทั่วเมืองบาดาลนาคนคร มีท่านปู่ศรีสุทโธเป็นประธาน ท่ามกลางนาคผู้เป็นสัมมาทิฏฐิทั้งหลาย เหล่านาคทุกตระกูล ทุกวรรณะ ขอจงปรากฏขึ้นน้อมกระแสแผ่เมตตาไปทั่ว เมืองบาดาลนาคนคร

กำหนดจิตอธิษฐานว่าหากอดีตชาติของเรา จะเป็นบุคคลใดก็ตาม เคยเกิด เคยจุติมาจากภพพญานาคก็ขอให้ กำหนดรู้และก็โมทนา กำหนดใจของเราว่าเราพ้นจากภพของความเป็นพญานาคมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อปฏิบัติธรรม เพื่อมรรคผลพระนิพพาน ขอให้ท่านปู่ศรีสุทโธได้โมทนาบุญกับข้าพเจ้า ขอลาพญานาคทั้งหลายทุกวรรณะได้โมทนาบุญ กับข้าพเจ้า หากมีวาระกรรมใดก็ตามที่เคยล่วงเกิน เคยพลาดพลั้งต่อพญานาคองค์ใดก็ตาม ตนใดก็ตาม ข้าพเจ้าขอขมากรรมและขออโหสิกรรมต่อกัน ขอบุญกุศลแห่งการปฏิบัติเพื่อมรรคผลพระนิพพาน จงเป็นบุญ จงเป็นเหตุ  จงจุดประกายให้พญานาคตนอื่น องค์อื่นมีกำลังใจในการที่จะมาจุติ มาปฏิบัติเพื่อพระนิพพาน รวมถึงมีกำลังใจในการทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบต่อไปด้วยเถิด

แผ่เมตตา ใครที่เคยเกี่ยวข้อง เกี่ยวพันก็ขอให้เกิดญาณเครื่องรู้ กำหนดรู้ขึ้นแผ่เมตตาอโหสิกรรม แผ่เมตตาน้อมบุญถึงกัน มีแต่กระแสของบุญ มีแต่กระแสของกุศล สิ่งใด ที่เป็นวิบากจงสลายตัว จงเป็นอภัยทานทานต่อกัน จงเป็นอโหสิกรรมต่อกัน ตัดกรรม หมดเวร หมดกรรมอย่างสิ้นเชิง ขอให้เหล่าพญานาคทั้งหลายโมทนาสาธุ และส่งเสริมชีวิตทางโลกทางธรรมของข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเถิด   ขอพญานาค ทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านที่ตั้งจิตอธิษฐานเพื่อทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา ขอท่านทั้งหลายได้ช่วยสงเคราะห์เกื้อกูล ให้เขตของพระพุทธศาสนามีความสันติสุขร่มเย็น ปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวง ขอท่านเมตตาส่งเสริมทำนุบำรุงพุทธบริษัทโดย เฉพาะอย่างยิ่ง พระอริยเจ้า พระอริยสงฆ์ให้ท่านอยู่ดีมีสุข มีความสัปปายะในการปฏิบัติธรรมเพื่อมรรคผลพระนิพพาน หากบุคคลใดอันเป็นอลัชชีเข้ามาอยู่ในพระพุทธศาสนา ก็ขอให้ท่านเมตตาดูแลสงเคราะห์ จัดการไปตามเหตุ ตามปัจจัย ตามหน้าที่ ตามวาระของแต่ละบุคคลด้วยเถิด

จากนั้นให้เราน้อมจิตอธิษฐานต่อไป ขอบารมีพระพุทธองค์ทรงสงเคราะห์ ขออนุญาตท่านปู่ศรีสุทโธ ขอยกดวงแก้ว ดวงจิตอทิสมานกายของข้าพเจ้าไปที่วิหารที่สะดือทะเล น้อมจิตไปกราบหลวงปู่อุปคุตที่สะดือทะเลด้วยเถิด ขอจงไปปรากฏ ขออนุญาตพญานาคที่ทำหน้าที่เป็นองครักษ์อยู่ ณ สถานที่แห่งนั้น ขอให้อทิสมานกายของข้าพเจ้า แต่ละบุคคล ได้เข้าไปกราบหลวงปู่พระอุปคุตด้วยเถิด กำหนดจิตนะ ไปกราบท่าน ผ่านเข้าไปมีโดมแก้วใสเป็น สูญญากาศอยู่ใต้มหาสมุทร พญานาคองค์ใหญ่ทั้ง 4 อยู่เป็นจตุรทิศ ภายในครอบแก้วขนาดใหญ่ มีวิหารที่หลวงปู่อุปคุตนั่งอยู่ภายใน เราก็น้อมจิตอทิสมานกายเข้าไปกราบท่าน น้อมจิตไปกราบท่านที่ตัก อธิษฐานว่า บุญกุศลที่ข้าพเจ้า เคยเกี่ยวเนื่องผูกพันกับท่าน ขอภาพที่ข้าพเจ้าเคยทำบุญ เคยตักบาตรเป็งพุธเคยตั้งจิตอธิษฐาน หรือเคยมาทำบุญ มาสักการะท่าน ในสมัยหรือชาติที่ข้าพเจ้าเป็นพญานาคก็ดี ขอให้ภาพอตีตังสญาณจงปรากฏ และขอน้อมจิต ขอบารมี หลวงปู่อุปคุตผู้ซึ่งเป็นผู้ชนะมารทั้งหลาย  

แม้แต่กระทั่งพญามาราธิราช ขอท่านเมตตาปกปักรักษา คุ้มครองข้าพเจ้า จากมารทั้งปวง พญามารทั้งปวง ขอให้ข้าพเจ้านี้มีบารมีแห่งหลวงปู่อุปคุตคุ้มครองรักษาตลอดไป ตราบเท่าเข้าถึงซึ่ง พระนิพพาน และขอบารมีหลวงปู่อุปคุตในมหาลาภ มหาลาโภ เปิดสายทรัพย์ สายสมบัติในเมืองบาดาลให้กับข้าพเจ้า ทั้งหลายสร้างประโยชน์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างประโยชน์ต่อตน ดูแลครอบครัว คนรอบข้าง ส่วนรวม ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอทรัพย์สมบัติทั้งหลาย ในเมืองบาดาลจงปรากฏ จงผุดขึ้น ทรัพย์ในดินทั้งหลาย ทรัพย์ในน้ำทั้งหลาย ทรัพย์ในเมืองบาดาลทั้งหลาย จงผุด จงขึ้น จงปรากฏเป็นมนุษย์สมบัติ จับต้อง ใช้การ ใช้สร้างบารมีได้ด้วยเถิด ใจสบายผ่องใส

กำหนดอธิษฐานอาทิสมานกายของเราขอจงปรากฏเป็นกายพระวิสุทธิเทพ เบื้องหน้าหลวงปู่อุปคุต กำหนดจิตกราบ จากนั้นน้อมจิตต่อไปนะว่า หากการปฏิบัติใดธรรมใดที่หลวงปู่จะเมตตาสั่งสอน จะบอกกล่าวก็ขอให้ท่านเป็นครูบาอาจารย์ภาคกายทิพย์เมตตามาสอนข้าพเจ้า มาโปรดข้าพเจ้าด้วยเทอญ ขอกระแสธรรม กระแสอภิญญาสมาบัติ กระแสบุญฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ทั้งหลาย ขอหลวงปู่อุปคุตเมตตาถ่ายทอดมายังข้าพเจ้าด้วยเถิด จากนั้นให้เรากำหนดอทิสมานกาย ขัดสมาธิ อธิษฐานขอให้เกิดรัตนบัลลังก์ดอกบัวแก้ว เจริญสมาบัติ เจริญสมาธิ อยู่เบื้องหน้าหลวงปู่อุปคุต ขอท่านเมตตาแผ่กระแสคลื่น กระแสญาณ ฌานสมาบัติทั้งหลาย รวมลงสู่อาทิสมานกายของ ข้าพเจ้า จิตของข้าพเจ้าในการถ่ายทอดธรรมจากจิตสู่จิตด้วยเถิด 

ทรงสมาธิ อธิษฐานจิต กำหนดรู้ กำหนดเชื่อมกระแส กำหนดเชื่อมญาณกับหลวงปู่อุปคุต เมื่อทรงอารมณ์ เจริญกรรมฐานอยู่กับท่านแล้ว ก็ตั้งจิตนะ ถ้าใครอยู่ในวิสัยมีวาระ เกี่ยวพันกับท่าน ก็สามารถที่จะขออนุญาตอาราธนาบารมี ขอบารมีพระพุทธองค์ ขออนุญาตลงมาฝึก ลงมาปฏิบัติกับ หลวงปู่อุปคุตโดยตรงได้ ขึ้นแล้วแต่กับบุคคล ว่าจะตรงวาระจิต มีวาสนาบารมีเกี่ยวพันกับท่าน เมื่อเราฝึกมาปฏิบัติแล้ว ก็ตั้งใจเจริญจิต เจริญญาณ พิจารณาธรรมให้ท่านเมตตามาสอนด้วยความเป็นทิพย์ จากนั้นต่อไปก็ให้เรากราบลาท่าน อธิษฐานขอให้เกิดดอกบัวแก้วมีก้านยาว กลีบจีบรายละเอียดถวายบูชา เป็นกระแสบุญแห่งการปฏิบัติ ถวายดอกบัว แก้วแด่พระอุปคุต ตั้งจิตอธิษฐาน ขอท่านรับและอนุโมทนา

จากนั้นตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีพระพุทธองค์ทรงสงเคราะห์ การปฏิบัติของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าตั้งจิตเป็นชาติ สุดท้าย ปฏิบัติเพื่อพระนิพพานเป็นที่สุด ขอบารมีพระพุทธองค์ทรงสงเคราะห์ ขอยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ขอไปกราบพระอินทร์ ท่านปู่พระอินทร์ ท่านย่าที่พระแท่น ตั้งจิตอธิษฐานให้อาทิสมานกายเราไปปรากฏอยู่ เบื้องหน้าพระอินทร์ท่านนะ จากนั้นตั้งจิตกราบทั้ง 2 ท่าน เมื่อกราบแล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า ข้าพเจ้าหากก่อนมาเกิด เป็นมนุษย์อยู่บนสวรรค์ชั้นใดก็ตาม เมื่อมากราบลาพระอินทร์เพื่อขออนุญาตลงไปเกิด ขอให้ภาพเหตุการณ์คำอธิษฐาน ที่ข้าพเจ้ามากราบลาพระอินทร์ ขอให้ปรากฏรู้ขึ้นมาในจิตของข้าพเจ้า ภาพเหตุการณ์ วาระก่อนลงมาจุติเป็นมนุษย์ ในชาติปัจจุบัน หน้าที่ที่ข้าพเจ้าตั้งจิตอธิษฐาน ที่ข้าพเจ้าตั้งใจไว้ บุคคลทั้งหลายที่มีความเกี่ยวพัน เกี่ยวข้อง กัลยาณมิตรที่มาพบมาเจอกันในชาตินี้ ขอให้รู้เห็นในความเป็นไปในความเป็นทิพย์ในชาติก่อนที่จะมาจุติ ก่อนที่จะตาม หากันจนมาพบมาเจอด้วยกระแสของบุญ มาปฏิบัติธรรมร่วมกัน ขอให้ภาพเหตุการณ์ ญาณเครื่องรู้ทั้งหลาย จงรู้ตื่นขึ้น มาในจิตของข้าพเจ้า ในคำอธิษฐานในหน้าที่ในสิ่งที่ข้าพเจ้าตั้งใจ ขอให้บารมีพระพุทธองค์ บารมีของท่านปู่ท่านอินทร์ พระอินทร์ท่านย่าผุดรู้ขึ้นในจิตของข้าพเจ้า เป็นปัจจัตตังตามแต่วาระของบุคคลด้วยเถิด

จากนั้นกำหนดต่อไป ขอให้ เห็นสภาวะความเป็นไปบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อย่างเต็มอัตรา ความเป็นอยู่ความเป็นไปของเทวดาทั้งหลายบนสวรรค์ ชั้นนี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้เห็นได้กำหนดรู้ในจิตของข้าพเจ้าในความเป็นทิพย์ ประดุจข้าพเจ้าไปสัมผัสด้วยอทิสมานกายอยู่ ในเหตุการณ์อยู่ในสถานที่นั้น เทวดานางฟ้าจำนวนมากมาย มีความพลุกพล่าน ท่านก็ร้องรำทำเพลง เสวยความสุขใน ทิพยสมบัติ มีความสุขในรูปในเสียงเพลง ยังมีเวรจากกามคุณ 5 เพียงแต่ไม่เนื่องด้วยกายเนื้อ พอใจในเสียงเพลง การร้องรำทำเพลง รสชาติความเป็นทิพย์ของอาหารทิพย์ กำหนดนะ ถ้าบางคนจิตละเอียด ก็ลองสัมผัสขออนุญาต ทิพยสมบัติ อาหารทิพย์ที่อยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ของเรามีอยู่ จากบุญของสังฆทานก็ขออนุญาตใช้กายทิพย์ กิน สัมผัส อาหารทิพย์บนสวรรค์ แล้วก็จับอารมณ์ความรู้สึกว่า มันมีความละเอียด มันซึมซาบเข้าไปในกายทิพย์ไหม รู้สึกเป็น ยังไง ทานอาหารทิพย์แล้ว รัศมีกายเกิดปีติ ความเอิบอิ่มแช่มชื่นสว่างขึ้นไหมเป็นยังไง

กำหนดให้ปรากฏความรู้จริง รู้แจ้งในสภาวะของภพอย่างชัดแจ้งชัดเจน มีความสุขในการร้องรำทำเพลง มีความสุขคล้ายกับมนุษย์ เพียงแต่เป็นของ ทิพย์ เพียงแต่เป็นของละเอียดที่ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เป็นของหยาบกายเนื้อแบบโลกมนุษย์ กำหนดจิตว่าอารมณ์ใจของเรายังสัมผัสถึงความพลุกพล่าน ความวุ่นวายไหม มีความสุขจริง แต่ก็ยังเนื่อง ยังมีความหลง ยังมีความติด กำหนดให้ใจเรา กำหนดรู้ กำหนดเห็น สวรรค์ชั้นนี้ยังมีความรัก ยังมีความพอใจในคู่ พอใจในบริวาร มีความดึงดูด ห่วงใยห่วงหา ในคู่ในบริวารแห่งตน กำหนดรู้ให้เห็น เห็นจนจิตเราละเอียด แยกได้ เห็นความวุ่นวายแม้ในความเป็นเทวดา

กำหนดน้อม กำหนดรู้ในจิต เนื่องจากอารมณ์ใจเราเคยยกจิตขึ้นไปบนพระนิพพานแล้ว ให้เราเห็นว่าอารมณ์ของเทวดา ท่าน ความเป็นอยู่ความเป็นไปในภพของความเป็นเทวดานั้น ก็ยังมีความทุกข์ ยังมีความห่วงใย ยังมีกิเลส ยังมีความ เศร้าหมอง ยังมีความกังวล ยังมีความรัก โลภ โกรธ หลง ปรารถนาที่จะมีทิพยสมบัติ ปรารถนาที่จะมีวิมานที่ใหญ่ ขึ้นสว่างขึ้น ปรารถนาที่จะมีทรัพย์ที่เป็นสวรรค์สมบัติมากขึ้น ยังปรารถนาที่จะมีนางฟ้า มีบริวาร กำหนดจิตพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริง ตามความเป็นไปของภพแห่งเทวดา

แล้วก็พิจารณาต่อไปในอนิจจลักษณะคือความไม่เที่ยงแห่ง ภพ เมื่อหมดบุญแล้ว วิมานก็หายไป ทิพยสมบัติก็ค่อยๆเลือนหายไป ยิ่งวาระที่ใกล้หมดบุญ ทิพยสมบัติค่อยๆหายไป ค่อยๆน้อยลง วิมานค่อยๆหรี่ลง ความใหญ่ของวิมานค่อยๆเล็กลง รัศมีกายค่อยๆลดลง จากที่เคยสว่างไสวด้วยบุญ ก็ค่อยๆ หรี่ลงมืดลง กายเริ่มทึบแสงลง จนกระทั่งเมื่อใกล้หมดบุญเต็มที่ ก็มีเหงื่อไหลออกจากรักแร้ ใกล้จะหมดบุญ มีวรรณะเศร้าหมอง คนไหนโชคดีก็ไปกราบทูลพระอินทร์ ไปกราบพระพุทธองค์ แล้วก็จัดการที่จะต่อบุญต่อบารมีก่อน ที่จะหมดบุญร่วงลงไป การจุติของเทวดานั้นมี 2 แบบ ร่วงแบบตั้งจิตอธิษฐานก่อนที่จะบุญจะหมดลงไปต่อวีซ่า ลงไป สร้างบุญสร้างกุศลแล้วกลับมาจุดเดิมใหม่ กับลงแบบร่วงลงไปเพราะหมดบุญอย่างถาวร ก็คือต้องไปเสวยกรรมเริ่มต้น ใหม่ขึ้นมา ดังนั้นเทวดาที่ท่านฉลาดหรืออยู่ในเขตพระพุทธศาสนา ท่านจึงมักจะลงมา ย่องลงมาทำบุญสร้างบารมีมาต่อ บุญกับพระอริยเจ้า พระอรหันต์ พระสุปฏิปันโน พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย เพื่อให้บุญบารมีท่านยังคงอยู่ ไม่ร่วงลงมาอย่าง ไม่เป็นท่า ถ้าจะร่วงจะจุติก็จุติลงมา โดยที่ว่าอธิษฐานลงมาก่อน อันนี้คือท่านที่ฉลาด เมื่อเราได้รู้แล้วเราก็ได้เห็นแล้ว สวรรค์ก็ยังมีความทุกข์ มีความไม่เที่ยง มีความวุ่นวาย มีความพลุกพล่าน ใจของเราเมื่อสงบแล้ว เราก็จะเห็น

จากนั้นเรากำหนดกราบลาพระอินทร์ท่านปู่ท่านย่า ขออนุญาตยก จิตสูงขึ้นไปอีกยังพรหมโลก ขอยกอทิสมานกายของข้าพเจ้า ขึ้นไปยังวิมานของท่านท้าวสหัมบดีพรหม คือท่านผู้เป็นใหญ่ในพรหมทั้ง 16 ชั้น ในหลายศาสนา หรือในศาสนาที่เรียกว่านิวเอจ ก็จะเรียกว่าเป็นพระผู้สร้างบ้าง กำหนดจิตกราบท่านท้าวสหัมบดีพรหม ท่านยิ่งมีอายุ ยาวนานมากกว่าเทวดาทั้งหลาย พรหมมีอายุความเป็นทิพย์ยาวนานมากกว่าเทวดาหลายพันหลายหมื่นหลายแสนเท่า อยู่มาจนกระทั่งบางองค์บางท่าน เข้าใจว่าสำคัญผิดว่าตัวท่านเป็นอมตะชั่วนิจนิรันดร์ อยู่จนลืม อยู่จนยาว ความเป็น พรหมอยู่ยาวนานจนบางครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จปรากฏบนโลกยาวนานผ่านไปหลายพระองค์แล้ว พรหมก็ยังคงอยู่ บุญ บารมีนั้นมีสูง อานิสงส์มาจากการเจริญพรหมวิหาร 4 และการเจริญฌานสมาบัติ

กำหนดจิตกราบท่านท้าวสหัมบดี พรหม จากนั้นตั้งจิตนะว่าเราขอแผ่เมตตา เป็นปฏิบัติบูชา บูชาคุณท่านท้าวสหัมบดีพรหมและพรหมทั้งหลาย แผ่เมตตา สว่าง แผ่กระแสเมตตาปรารถนาดี ความรักความสุขความเมตตาไปยังทุกดวงจิต เมื่อไหร่ที่เราแผ่เมตตา เมื่อไหร่ ที่จิตดวงใดในสังสารวัฏเจริญเมตตาฌาน พรหมทั้งหลายท่านก็จะกำหนดรู้ด้วย เพราะจิตสื่อสัมผัสเชื่อมโยงผ่านกระแส เมตตาโดยตรง แผ่เมตตาสว่าง ถ้าเราอยู่บนพรหมโลกและจิตมีความละเอียดชัดเจน เราจะพบว่าพรหมทั้งหลาย เวลาที่ เราแผ่เมตตา อาทิสมานกายของพรหมทั้งหลาย ท่านก็จะสว่างขึ้นและยิ้มขึ้นตาม อาการยิ้มของท่านนั้นก็คือท่านโมทนา กับเรา

ดังนั้นทุกครั้งที่เราปฏิบัติเจริญพระกรรมฐานทุกครั้งที่เราแผ่เมตตา พรหมทั้งหลายก็พลอยมีกำลัง พลอยอนุโมทนาบุญกับเรา คอยปกปักรักษาคุ้มครองกับเราด้วย ถ้าอยากรู้ว่าจริงไหม ก็น้อมจิตมองไปที่ท่านท้าวสหัมบดีพรหม ดูว่าท่านยิ้มแล้วพยักหน้าไหม กำหนดจิตต่อไปนะ ดูให้รู้ในความเป็นทิพย์ต่อไป กำหนดจิตลงมา ส่องญาณลงมาบน โลกมนุษย์ ลงมาที่ศาลพระพรหมเอราวัณที่แยกราชประสงค์ กำหนดขอความเป็นทิพย์กำหนดรู้ กำหนดจิตถามท่าน ท้าวสหัมบดีพรหม พรหมที่ท่านเสด็จลงมาประทับที่พระพรหมเอราวัณนั้นเป็นพรหมเพียงองค์เดียว หรือท่านเมตตา สลับเวรกันลงมา ขอให้เห็นภาพปรากฏชัดเจนถูกต้องตามความเป็นจริงด้วยเถิด เมื่อกำหนดรู้แล้ว เราก็โมทนาสาธุกับพรหมทั้งหลายที่ท่านสงเคราะห์เกื้อกูล อธิษฐานต่อไปว่าทุกครั้งที่ข้าพเจ้าแผ่เมตตา เจริญเมตตาอัปปมานฌาน ขอให้ พรหมทั้งหลายท่านเมตตาสงเคราะห์ข้าพเจ้าเต็มกำลัง อนุโมทนาบุญเป็นมหาโมทนาบุญกับข้าพเจ้าด้วยทุกครั้ง ทุก ครั้งที่ข้าพเจ้าเจริญฌานสมาบัติ ขอกำลังแห่งพรหมทั้งปวงจงมาเป็นพละ จงมาเป็นกำลังฌานสมาบัติให้กับข้าพเจ้า คอย เสริมเป็นพละให้กับข้าพเจ้าทุกครั้งในการเจริญฌานสมาบัติ เจริญเมตตา เจริญพรหมวิหาร 4 ทั้งหลายด้วยเถิด

จากนั้นกำหนดจิตนั่งบนรัตนบัลลังก์ดอกบัวแก้ว ทรงฌานสมาบัติ ทรงสมาธิเจริญจิตสมาธิ ท่ามกลางกระแส พลังงานของพรหมทั้งปวง มีท่านท้าวสหัมบดีพรหมทรงเป็นประธานด้วยเถิด สงบนิ่งผ่องใส ขอกระแสกำลังแห่งพรหม ทั้งหลาย หนุนกำลังฌานของข้าพเจ้าด้วยเถิด กำหนดรู้ กำหนดดู ในจิตของเรานะ กำหนดรู้ กำหนดแยกแยะ ความละเอียดในการเจริญฌานสมาบัติโดยใช้กายทิพย์ไปฝึกสมาธิในแต่ละสถานที่ ดูอารมณ์ในขณะที่เราทรงฌานบนพรหมโลก ขอให้เข้าถึงอารมณ์แห่งความละเอียด ความสงบเย็น อารมณ์ละเอียดแห่งพรหม ความสงบสงัด แห่งพรหม ทรงอารมณ์ไว้ ใจสว่าง จิตสว่าง จนรู้สึกว่าพรหมโลกทั้งหลายพลอยสว่างเจิดจ้าอย่างยิ่ง จากนั้นให้เรากำหนดจิตกราบท่าน ท้าวสหัมบดีพรหม

แล้วก็ขอบารมีพระพุทธองค์ ขอบารมีสมเด็จองค์ปฐม ยกอาทิสมานกาย ข้าพเจ้าขึ้นไปที่วิมานของสมเด็จองค์ปฐมบนพระนิพพาน ขอจงปรากฏมหาสมาคมคือการประชุมปรากฏของพระพุทธ เจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เทวดาพรหม ผู้ใหญ่ทั้งหลาย ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลาย ขอจงเมตตาปรากฏอยู่ภายในวิมานของสมเด็จองค์ปฐม กายทิพย์ของเราจง ปรากฏความเป็นกายพระวิสุทธิเทพสว่าง นั่งอยู่บนรัตนบัลลังก์ดอกบัวแก้ว ขัดสมาธิ กำหนดจิตเจริญกรรมฐานถวาย เป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา บิดามารดา ครูอุปัชฌาย์ อาจาริยบูชา กำหนดทรงอารมณ์พระนิพพาน เต็มกำลังสว่างผ่องใส จิตรักในพระนิพพาน มั่นคงในพระนิพพาน พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง อารมณ์ใจปล่อยวางจากภพทั้งปวง ความพึงใจความปรารถนาให้ภพ เราตัด เราละ เราวาง ไม่ว่าจะเป็นความเป็นมนุษย์ ความเป็นเทวดา ความเป็นพรหม ความเป็นอรูปพรหม ตัดออกไปจากจิตเรา จิตต้องการปรารถนาจุดเดียวคือพระนิพพานชาตินี้ กิจทั้งหลายจบแล้ว ภาระทั้งหลายสิ้นแล้ว การเกิดสิ้นแล้ว ความทุกข์สรรพกิเลสทั้งหลาย ดับลงจากใจของเรา จิตเราตั้งไว้ จุดเดียวคือพระนิพพาน

กำหนดอาทิสมานกายสว่างเป็นเพชรประกายพรึกเต็มกำลัง ทรงอารมณ์จิต นิพพานัง ปรมังสุขัง พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง ทรงอารมณ์สว่างผ่องใส กายทิพย์สว่าง อทิสมานกายสว่าง อยู่ภายในวิหารของ สมเด็จองค์ปฐม วิมานที่มีมหาสมาคม ที่ท่านเมตตามาสงเคราะห์เราทุกคน กำหนดจิตน้อมกระแสจากพระพุทธองค์ จากพระปัจเจก จากพระอรหันต์ กระแสของพระนิพพานซึมซาบลงสู่กายพระวิสุทธิเทพของเรา จิตเรารู้สึกว่าเป็นหนึ่ง เดียวกับพระนิพพาน เชื่อมกระแสเป็นหนึ่งเดียวกับทุกท่านบนพระนิพพานทุกๆพระองค์ ใจเอิบอิ่มผ่องใส สว่างเป็นสุข ไม่ปรารถนาในสิ่งใด ไม่ปรารถนาในภพใด อารมณ์สว่างใส ทรงอารมณ์นี้ไว้ จิตมองเห็นสังโยชน์ทั้งหลายคลายตัว และสลายตัวไป อวิชชาทั้งหลายดับลง จิตตั้งมั่นจดจ่อ ทรงอยู่ไว้กับพระนิพพานจุดเดียว กายพระวิสุทธิเทพของเราแต่ละคนสว่าง ใสเป็นสุข กายทิพย์อทิสมานกายเรายิ่งมีกำลังเพิ่มขึ้น

อธิษฐานจิต ขอบารมีพระพุทธเจ้า ขออนุญาตสมเด็จองค์ปฐม ขอน้อมกระแสจากพระนิพพานลงมายังโลกมนุษย์ ขอกระแสแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ขอจงส่งเป็นกำลังลงมายังวัดวาอารามทั้งหลายทั่วโลกทั่วประเทศไทยทั่วทุกประเทศ ทุกสถานปฏิบัติธรรม ขอกระแสจาก พระนิพพาน กระแสแห่งมรรคผล จงหลั่งไหลลงมา  ขอกระแสจากพระนิพพานจงหลั่งไหลลงสู่พุทธบริษัท 4 ไม่ว่าจะ เป็นพระสงฆ์ ภิกษุสามเณร แม่ชี รวมถึงอุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย ฆราวาสผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ขอกระแส แห่งมรรคผลพระนิพพานจงหลั่งไหลลงสู่จิตของทุกท่าน ของทุกรูปทุกนาม ขอกระแสแห่งพระนิพพานจงหลั่งไหลลงมา ยังพระบรมธาตุเจดีย์ พระมหาเจดีย์ พระเจดีย์ ขอกำลังแห่งพุทธานุภาพจงปรากฏขึ้น กระแสพระนิพพานจงลงมา ปรากฏความศักดิ์สิทธิ์อัศจรรย์ ยังพระบรมสารีริกธาตุทุกพระองค์ พระธรรมธาตุทุกองค์ พระอรหันตธาตุทุกพระองค์ ขอกำลังกระแสพุทธานุภาพ กระแสแห่งพระนิพพาน จงหลั่งไหลลงมาสู่พระพุทธรูปองค์ใหญ่องค์เล็กทุกๆพระองค์ ไม่ว่า จะอยู่ในสถานที่แห่งใด พระพุทธรูปที่ถูกฝังดินไว้ จมน้ำ ก็ขอให้ปรากฏผุดขึ้น ปรากฏขึ้น ประจักษ์ขึ้น ให้ผู้คนน้อมนำ อัญเชิญขึ้นมา ทำนุบำรุงปฏิสังขรณ์ ซ่อมแซม เพื่อสักการะกราบไหว้สืบต่อไป

ขอกำลังแห่งเทวดา ผู้เป็นสัมมาทิฏฐิ เทวดาผู้ตั้งจิตรักษาพระพุทธศาสนา จงมีกำลัง เทวดาผู้เมตตามาสถิตรักษาพระพุทธรูปต่างๆ ขอพระพุทธรูปทุกองค์จง ปรากฏกำลังแห่งพุทธานุภาพ มีกำลังเทวดาผู้เป็นสัมมาทิฏฐิมาคุ้มครองรักษา พระพุทธรูปทุกองค์จงปรากฏกลายเป็น พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อัศจรรย์ พระเครื่องทุกองค์จงปรากฏกำลังแห่งพุทธานุภาพ เป็นพระเครื่องอันศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคล ทั้งหลาย ขอน้อมกระแสจากพระนิพพานลงมาจงปรากฏความศักดิ์สิทธิ์ เพื่อยังศรัทธาให้ผู้คนได้เข้ามาสู่เขตพระพุทธ ศาสนา ขอกระแสจากพระนิพพานจงปรากฏเกิดอัศจรรย์ เพื่อเข้าสู่ยุคแห่งชาววิไล ยุคที่ผู้คนเข้าถึงพระพุทธศาสนา อย่างแท้จริง เข้าถึงการปฏิบัติ เข้าถึงมรรคผลอย่างแท้จริง และน้อมกระแสจากพระนิพพานลงมายังกายเนื้อของเราทุก คน กระแสบุญศักดิ์สิทธิ์จากพระนิพพาน จงลงมาคุ้มครองรักษา  เปิดสายบุญ สายทรัพย์ สายสมบัติอัศจรรย์ มีความ คล่องตัว ทั้งทางโลก มีความเข้าใจลึกซึ้งเข้าถึงแก่นธรรม ขอให้การปฏิบัติของข้าพเจ้าทุกคน จงมุ่งรัดตัดตรงสู่ มรรคผลพระนิพพาน

ขอการปฏิบัติของข้าพเจ้าทุกคนจงเข้าถึงแก่นธรรมอย่างลึกซึ้งง่ายดาย ประดุจลายมือของตน จงกระจ่างแจ้งในธรรมทั้งปวงด้วยเถิด กำหนดจิตให้ผ่องใสสว่าง กายพระวิสุทธิเทพสว่างเจิดจ้า ใจสบายเป็นสุข น้อม กระแสบุญกุศลของเรา ขอบุญจงปรากฏรวดเร็ว ส่งผลทันใจอัศจรรย์ ขอบุญขอกุศลขอความดีขอบารมีทั้งหลาย จงเปิด จงปรากฏรวดเร็วอัศจรรย์ จากนั้นจึงน้อมจิต ตั้งใจแยกอทิสมานกายกราบลาพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอรหันต์ ทุกพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ทุกท่านที่ปรากฏอยู่ในมหาสมาคมนั้น น้อมใจเราว่าจิตเราเชื่อมกระแส กับทุกท่านทุกพระองค์มีความเกี่ยวเชื่อมโยง จิตเราถึง กระแสท่านเมตตาน้อมมาถึงจิตเรา เรามีกำลังพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ รักษาคุ้มครอง เราอยู่ในกระแสแห่งโลกุตรธรรม เราอยู่ในกระแสแห่งมรรคผลพระนิพพาน

น้อมใจเรา ให้ผ่องใสมีกำลังใจในการปฏิบัติ จากนั้นจึงกราบลาทุกท่าน กำหนดจิตที่กายเนื้อ หายใจเข้าลึกๆ หายใจเข้าลึกๆพุท ออกโธ หายใจเข้าลึกๆครั้งที่ 2 ธัมโม หายใจเข้าลึกๆช้าๆครั้งที่ 3 สังโฆ จากนั้นค่อยๆออกจากสมาธิช้าๆ ใจเป็นสุข มีความเอิบอิ่มแช่มชื่นอย่างยิ่ง ใจสว่าง กายสว่าง กายเบาจิตเบา จิตเป็นสุขอย่างยิ่ง บุญเกิดมากมายมหาศาล ใจเป็นสุข ตั้งจิตโมทนาสาธุกับเพื่อนๆทุกคนที่ปฏิบัติธรรมร่วมกัน โมทนาบุญสาธุกับเทวดา พรหมที่มาปกปักรักษาเราทุกครั้ง ในการปฏิบัติ กำหนดรู้ กำหนดเห็นด้วยความเป็นทิพย์ของจิต ให้เห็นภาพเทวดาพรหมทั้งปวง ที่ปรากฏอยู่รายรอบ เสด็จอยู่เหนือเศียรเกล้าเต็มบริเวณเหนือศีรษะของเรา ขอให้เห็นเทวดาพรหมทั้งหลาย รู้สึกสัมผัสด้วยความเป็นทิพย์   ว่าท่านเมตตาดูแลสงเคราะห์เราอยู่ตลอดเวลา ใจสบายเป็นสุข

สำหรับวันนี้ก็ขอโมทนากับทุกคนนะครับ ที่ตั้งใจปฏิบัติ ธรรมกัน สำหรับวันนี้ก็น่าจะเป็นสัปดาห์ก่อนที่จะเข้าสู่ปีใหม่ไทยคือช่วงสงกรานต์ ก็ขอให้เราทุกคน ขออนุญาตอวยพร ให้พวกเราทุกคนมีแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรือง เปิดสายบุญ สายทรัพย์ สายสมบัติ มีความคล่องตัวสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง กรรมฐานสมาธิที่เคยฝึกที่เคยปฏิบัติ เราสามารถนำมาใช้ให้สุขภาพเราแข็งแรงได้ ก็ขยันฝึก ขยันปฏิบัติ แล้วก็ เดินทางไปไหนก็ขอให้ปลอดภัยแคล้วคลาดจากภยันอันตรายทั้งปวง ขอให้ทุกคนมีโชคมีลาภมีความคล่องตัว มีความ สุข เปลี่ยนชีวิต พลิกชีวิตขึ้น นับตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ปีนี้ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปทุกคน สำหรับวันนี้สวัสดีครับ พบกันใหม่ วันอาทิตย์หน้าครับเวลาเดิม

ถอดความและเรียบเรียงโดย : คุณวรรณภา

You cannot copy content of this page